ILINK บวกแรง 9% เก็งคว้างาน “สายเคเบิ้ลใต้น้ำเกาะเต่า” พรุ่งนี้! โบรกแนะซื้อเป้า 9.50 บ.

ILINK บวกแรง 9% เก็งคว้างานประมูล “สายเคเบิ้ลใต้น้ำเกาะเต่า” พรุ่งนี้(17 มี.ค.65) โบรกแนะซื้อเป้าใหม่ 9.50 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(16 มี.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ปิดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 8.80  บาท บวก 0.70 บาท หรือ 6.64% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 116.95 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์(16 มี.ค.2565) ว่า แนะนำซื้อ ILINK ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท มองว่าหุ้นมีโอกาส outperform เนื่องจากมี Catalyst บวกการประมูลงานใหญ่ เคเบิ้ลใต้น้ำ (Submarine cable) เกาะเต่าวันที่ 17 มี.ค.นี้

โดยยังไม่รวมงานนี้ในประมาณการกำไรสุทธิของ ILINK ซึ่งกรณีบริษัทชนะประมูลงานดังกล่าว จะเป็น upside ต่อกำไรปี 2565-2566 ในเบื้องต้น ประเมินภายใต้สมมติฐานชนะประมูลที่มูลค่า 1,263 ลบ. (ต่ำกว่าราคากลาง -30%) และ %Net margin งาน 10% จะทำให้ประมาณการรายได้รวมปี 2565-2566 เพิ่มขึ้นต่อปี 10% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อปี 14% รวมทั้งมีราคาเป้าหมายปี 2565 เพิ่มขึ้น 0.90 บาท จาก 9.50 บาท และเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่ม Non mobile

ILINK แย้มผลงานปี 65 รายได้-กำไรนิวไฮต่อเนื่อง จ่อประมูลงานกว่า 5,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกกว่า 4,000 ล้านบาท คาดผลงานไตรมาส 1/65 โตดี หลัง 2 เดือนแรกยอดขายสายสัญญาณโตกว่าเป้า ลุยเจาะ 6 กลุ่มลูกค้า ดันรายได้ธุุรกิจขายสายสัญญาณปีนี้โต 12-20% เทเลคอมโต 27-30% ตั้งเป้าแบ็กล็อกธุรกิจวิศวกรรมเพิ่มขึ้น 3 เท่า

โดยก่อนหน้านี้(8มี.ค.65) นางสาววริษา อนันตรัมพร ผู้จัดการทั่วไป ILINK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่สูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่อง จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 6,109.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 353.11 ล้านบาท

โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่กว่า 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog ของธุรกิจโทรคมนาคม จำนวน 3,480 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปี 2565 จำนวน 2,021 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปีถัด ๆ ไป และ Backlog ของธุรกิจวิศวกรรม จำนวน 667 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565 ทั้งหมด

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่และอยู่ระหว่างรอผลการประมูล มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท โดยงานที่อยู่ระหว่างรอผลการประมูล ได้แก่ งานสถานีไฟฟ้าย่อย พุทธมณฑล มูลค่า 617 ล้านบาท, งานสายส่งไฟฟ้าแรงสูง สุโขทัย มูลค่า 71 ล้านบาท

ขณะที่งานที่เตรียมเข้าประมูล ได้แก่ งานโครงการจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 1,700 ล้านบาท  เตรียมเปิดประมูลวันที่ 17 มี.ค. 2565 และโครงการก่อสร้างเคเบิลใต้น้ำ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 1,230 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนศาลปกครอง หลังจากบริษัทได้เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด แต่กฟภ.ได้ยกเลิกโครงการ รวมไปถึงงานสายส่งไฟฟ้าแรงสูง, สถานีไฟฟ้าย่อย และสายเคเบิลใต้ดินอีก 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หลังจากในช่วง 2 เดือนแรก ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ มียอดขายเติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ 6 กลุ่ม ได้แก่ การศึกษา โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ซีเคียวริตี้ และกรีน เอ็นเนอร์ยี่ รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ต และดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มากขึ้น และภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ผลักดันให้ปี 2565 รายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 12-20% จากปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 8%

ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม ปี 2565 มุ่งเน้นกลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และจับมือพันธมิตรใหม่ ผลักดันให้รายได้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 27-30% จากปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 10% ขณะที่ธุรกิจวิศวกรรม เน้นงานที่มีเชี่ยวชาญ และทำกำไร พร้อมสร้างความแข็งแกร่งของ Backlog โดยตั้งเป้าหมาย Backlog เพิ่มขึ้น 3 เท่า จากสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 667 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 5%

Back to top button