SCM ซิลลิ่ง! ลุ้นรายได้ปี 65 โต 50% รุกขยายฐานลูกค้า-ออกสินค้าใหม่หนุน

SCM ซิลลิ่ง! ลุ้นรายได้ปี 65 โต 50% รุกขยายฐานลูกค้าแตะ 1.50 แสนราย ออกสินค้าใหม่-เพิ่ม OEM หนุน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 มี.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ณ เวลา 14:58 น. อยู่ที่ระดับ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 29.46% โดยทำจุดสูงสุดที่ 8.35 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 6.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 468.70 ล้านบาท

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCM เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในอัตรา 50% ผ่านการขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Leverage Brand Energy การยกระดับพลังแบรนด์องค์กรและสินค้าให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายและสร้างแบรนด์เลิฟเวอร์ วางเป้าขยายฐานลูกค้า แตะระดับ 150,000 ราย จากปัจจุบัน 120,000 ราย และหากรวมดีลเลอร์จากต่างประเทศ ทำให้ยอดรวมแตะ 250,000 ราย 2.Driving Digital ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลในทุกๆ ฝ่ายงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานและเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขยายตลาด 3.Create Online & Offline Breakthrough System สร้างและผสมผสานระบบ Offline และ Online ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อให้รองรับและเติมเต็มจุดอ่อนจุดแข็งของทั้ง 2 ระบบ และ 4.Customer Experience Management การบริหารจัดการประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของลูกค้า

นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ระดับ คือ ระดับที่ 1 เป็นการออกใหม่ตามแผน Redesign และ Reformular เพื่อให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยและสูตรที่อัปเดตกว่า โดยเน้นพัฒนาในกลุ่มของใช้ส่วนตัวเป็นหลักก่อน เช่น โรลออน น้ำยาซักผ้าปรับผ้านุ่ม และเมาท์สเปรย์ เป็นต้น และระดับที่ 2 กลุ่มอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ช่วยป้องกันและฟื้นฟูเรื่องภูมิแพ้ ผลิตภัณฑ์วิตามินรวมที่ช่วยดูแลสุขภาพของกลุ่ม Silver Age

รวมถึงการโฟกัสปั้น 3 รายการที่ช่วยดูแลสุขภาพเฉพาะทางที่ออกจำหน่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว คือ ผลิตภัณฑ์ Probiotic ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน รักษาสมดุลในลำไส้ ผลิตภัณฑ์ป้องกันมะเร็ง และผลิตภัณฑ์ป้องกันเบาหวาน

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้มีนโยบายขยายตลาด OEM อาหารเสริมสุขภาพ เพื่อเพิ่มผลประกอบการให้กับบริษัทลูก คือ บริษัท บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (SMI)

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่หัวใจของการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ฝ่ายขายและการตลาด ได้แก่ 1.เพิ่มความแข็งแรงของช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งตีคู่กับช่องทางออฟไลน์เดิม 2. เน้นขยายฐานสมาชิกผ่านการปั้นผู้นำหรือผู้แทนธุรกิจในแต่ละภูมิภาค และเน้นเพิ่ม % Active และเพิ่มยอดซื้อต่อบิล และ 3.พัฒนาระบบ CDP เพื่อให้สามารถบริหารระบบการรักษาการซื้อต่อเนื่องของลูกค้าจนไปถึงการสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ตลาดส่งออกมีเป้าหมายขยายไปสู่ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ รวมถึงตลาดอเมริกา และออสเตรเลียอีกด้วยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2565

Back to top button