SPA บวก 6% นิวไฮรอบ 4 เดือน ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัว เล็งผุด 2 สาขาใหม่ แนะซื้อเป้า 8.70 บ.

SPA บวก 6% นิวไฮรอบ 4 เดือน ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัว หากรัฐคลายล็อกประกาศ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่น เตรียมเปิด 2 สาขาใหม่ แนะซื้อเป้า 8.70 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (31 มี.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA อยู่ที่ระดับ7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 5.80% ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 4 เดือนโดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 7.35 บาท เมื่อวันที่ 25พ.ย.2564โดยทำจุดสูงสุดที่  7.30 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 6.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69.93 ล้านบาท

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์(23มี.ค.2565) ว่า SPA โมเมนตัมผลประกอบการ ไตรมาส1/2565 ชะลอตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ Omicron ส่งผลให้จำนวนลูกค้าเข้าใช้บริการลดลงอย่างมีนัย โดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. กลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้นแล้ว แต่ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีการปิดสาขาจำนวนมาก แต่ในปีนี้กลับมาเปิดให้บริการประมาณ 80% ของจำนวนสาขาในประเทศทั้งหมด

อีกทั้งได้อานิสงส์จาก 1) มาตรการ Test & Go แม้สะดุดใน ช่วงแรกต้นปีแต่ต่อมาถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง และมีการผ่อนปรนมาตรการมากขึ้นนับตั้งแต่ 1 มี.ค. เป็นต้นมา และโครงการ Phuket Sandbox ซึ่งได้การตอบรับจากลูกค้าต่างชาติ ทำให้สาขาภูเก็ต สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่ม โครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4″ เริ่ม ก.พ. 65 รวมถึง iii) รายได้จาก การจำหน่าย ATK (Saliva Covid-19 Test) เข้ามาช่วยหนุน คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท

ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565 หากภาครัฐคลายล็อกและประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่น (ตั้งแต่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป) จะทำให้มาตรการการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่อนคลายมากขึ้น ดึงดูดคนเดินทางและท่องเที่ยวในประเทศกันมากขึ้น หากแม้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับเข้ามาในปีนี้ (Base Case) แต่กระนั้นกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 65 อยู่ที่ 6 ล้านคน ส่วนใหญ่จากทวีปยุโรป อเมริกา และ Middle East เนื่องจากมีการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางมากกว่า และ SPA ก็ได้ประโยชน์มากขึ้น จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นแม้ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักก่อนหน้าแต่มีการปรับตัวขยาย ฐานลูกค้าไปในกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านั้นมากขึ้น ทางฝ่ายยังคงประมาณการไว้ดังเดิมคาดขาดทุนสุทธิที่ 96 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าขาดทุนสุทธิที่ 287 ล้านบาท

สำหรับแผนขยายสาขาในปีนี้ จำนวน 2 สาขา ได้แก่ 1) Let’s Relax Onsen เมืองพัทยา 1 แห่ง คาด เปิดในไตรมาส 3/2565 และ ii) สาขาพระราม 3 จำนวน 1 แห่ง จะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค.65 โดยทั้ง 2 สาขาเป็นโครงการร่วมกับ LH ภายใต้สัญญากู้ยืม 5 ปี เพื่อลดความเสี่ยงในการเพิ่มทุน ณ ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนสาขาในประเทศทั้งหมด 68 สาขา

แนวโน้มการดำเนินงานจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง หลังจากที่รัฐประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่น ด้านผลิตภัณฑ์กัญชาคาดจะออกสู่ท้องตลาด ภายในไตรมาส3/2565 โดยยังไม่รวมในประมาณการ เบื้องต้นทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 8.70 บาท

Back to top button