FORTH แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 6% “ออลไทม์ไฮ” ปักธงรายได้ปีนี้โต 20% ตุนแบ็กล็อก 924 ลบ.
FORTH แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 6% “ออลไทม์ไฮ” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ตุนแบ็กล็อก 924 ลบ. จ่อประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 9.7 พันลบ. ขยายคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” 5,000 ตู้ ภายในปี 65 เล็งดัน “ฟอร์ท เวนดิ้ง” และ “อีเอ็มเอส” เข้าตลาดหุ้นใน 1-2 ปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 เม.ย.2565) ราคาหุ้น บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ณ เวลา 15:51 น. อยู่ที่ระดับ 33.25 บาท บวกไป 2.00 บาท หรือ 6.40% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ33.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 31.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102.24 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2549
อนึ่งก่อนหน้านี้(6 มี.ค.65)นายชัชวิน พิพัฒนโชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร FORTH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 8,813 ล้านบาท มาจากการเติบโตของทุกธุรกิจ
โดยธุรกิจอีเอ็มเอสในปี 2565 ยังได้รับออเดอร์เพิ่มเติมต่อเนื่อง หลังจากปลายปีก่อนบริษัทได้รับงานจ้างผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์จากลูกค้ารายใหญ่ ดังนั้นมั่นใจว่าปี 2565 จะเป็นปีที่สดใสสำหรับธุรกิจอีเอ็มเอส อย่างไรก็ตาม บริษัทได้หาลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ และยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่นส์ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 924 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565 ทั้งหมด โดย Backlog ดังกล่าว ประกอบด้วย งานของกรมคุมประพฤติ มูลค่า 318 ล้านบาท งานของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่า 86 ล้านบาท งานของกรมการปกครอง มูลค่า 363 ล้านบาท และงานของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มูลค่า 157 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่ในช่วงปี 2565-2566 จำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,700 ล้านบาท ประกอบด้วย งานของหน่วยงานการไฟฟ้า 5 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท งานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงอุดมศึกษา 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท งานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท และงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม 8 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้งาน 60-70% ของมูลค่างานดังกล่าว
ขณะที่ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส มีการได้ขยายงานเพิ่มเติมไปยังงานบริการหลังระบบหลังบ้าน ซึ่งมีกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่ FSMART ได้เข้าไปให้บริการ เช่น กลุ่มเซ็นทรัล เป็นต้น และใน 1-2 เดือนนี้ คาดว่าจะมีการเปิดบริการใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเป็น e-wallet ที่จะเข้ามาเสริมการบริการตู้บุญเติม รวมทั้งยังเดินหน้าทำตลาดสถานีชาร์จรถ EV
ประกอบกับตู้คาเฟ่อัตโนมัติ แบรนด์ “เต่าบิน” มีแผนขยายเป็น 5,000 ตู้ ภายในสิ้นปี 2565 ปี 2566 อีก 5,000 ตู้ และปี 2567 อีก 10,000 ตู้ ทำให้สิ้นปี 2567 จะมีทั้งสิ้น 20,000 ตู้ ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปัจจุบันมีอยู่จำนวน 800 ตู้ รวมทั้งจะมีการพัฒนาเมนูอาหารเพิ่มเติมเข้าไปด้วย รวมทั้งมีแผนส่งออกตู้ไปยังอังกฤษ เพื่อทดสอบตลาดต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนนำบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด และธุรกิจอีเอ็มเอส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 1-2 ปีนี้ เพื่อให้มีศักยภาพรองรับการเติบโต และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ส่วนบริษัท FORTH MRO ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง FORTH ถือหุ้น 75% และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ถือหุ้น 25% ได้สิทธิ์บริหารพื้นที่คลัง 3 ในพื้นที่ดอนเมือง จำนวน 12 ไร่ ระยะเวลา 15 ปีนั้น ในช่วง 1-2 ปี ยังเป็นช่วงกรลงทุน คาดว่าจะใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท แบ่งเป็นปีนี้ 300 ล้านบาท และปี 2566 อีก 200 ล้านบาท