THREL บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 3 ปี จับตากำไรปีนี้โตแรง 119% แนะซื้อเป้า 7 บ.  

THREL บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 3 ปี จับตากำไรปีนี้โตแรง 119% รับธุรกิจประกันฟื้นเด่น-ได้อานิสงส์ Bond yield พุ่งสูง แนะซื้อเป้า 7 บ.  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(20 เม.ย. 2565) บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL ณ เวลา 10.19 น. อยู่ที่ระดับ 5.90 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 6.31% ด้วยมูลค่าซื้อขาย  98.58 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 3 ปี โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 6.00 บาท เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2562

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์(19 เม.ย.2565) ว่า THREL ภาพรวมธุรกิจจะฟื้นตัวชัดเจนในปี 2565 เป็นผู้นำธุรกิจรับประกันชีวิตต่อในไทย ที่มีศักยภาพการเติบโต สอดคล้องกับอุตสาหกรรมประกันชีวิต มีการจับมือกับพันธมิตรบริษัทประกัน ชีวิต นายหน้าประกันภัย และกลุ่ม Tech Partner ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆและช่องทางการขายให้ลูกค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเริ่มขยาย ธุรกิจรับประกันภัยต่อไปต่างประเทศ หนุนการเติบโตในระยะยาวด้วย คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะฟื้นตัวถึง 119%  เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มเคลมประกันที่ เกี่ยวข้องกับโควิดลดลง

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2565 จะฟื้นตัว ทั้งเทียบไตรมาสก่อนหน้า  และเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจรับประกันชีวิตต่อฟื้นตัว กำหนด Fair value ปี 2565 เท่ากับ 7 บาท อิง PBV 2.7 เท่า โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า THREL มีศักยภาพ ในการเติบโตในระยะยาว สามารถคาดหวัง Div Yields ได้ราว 4-5% ต่อปี

สำหรับทิศทาง Bond yield อายุ 3 ปี ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2565 จนล่าสุดอยู่ที่1.35% ปรับเพิ่มขึ้นถึง 51 bps ถือเป็นผลบวกต่อ THREL เพราะจะทำให้ THREL หาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ใหม่ๆ ได้สูงขึ้น โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าระยะเวลาการลงทุนในหุ้นกู้ของ THREL จะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 3 ปี ทำให้ประเมินว่า Bond yield อายุ 3 ปี ที่ปรับสูงขึ้นจะส่งผลบวกต่อแนวโน้มรายได้จากการลงทุนของ THREL ให้เติบโตได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยเริ่มเห็นโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งหลังปี 2565 (เดิมคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปี 2565) หลังอัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นมากในเดือน ก.พ. และ มี.ค.65 และยังมีโอกาสอยู่ในระดับสูงในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2565 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของไทยปี 2565 จะอยู่ที่ 4-5% ทำให้ Real Interest Rate สำหรับการฝากเงินติดลบมากกว่า 3% อาจสร้างแรงกดดันให้มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นจากเดิม ส่งผลบวกให้แนวโน้ม Bond yields ไทยจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565-66 ส่งผลบวกต่อธุรกิจลงทุนของ THREL

Back to top button