IIG บวก 6% ลุ้นกำไร Q1 นิวไฮ โต 136% เล็งทั้งปี 119 ลบ. โบรกเคาะเป้า 41 บ.

IIG บวก 6% ลุ้นกำไรปกติ Q1 นิวไฮ โต 136% เล็งทั้งปี 119 ลบ. อานิสงส์รายได้เพิ่มหลังได้งานจากลูกค้าธนาคารรายใหญ่ และจากความต้องการลงทุนพัฒนาระบบ Cloud ERP ที่ยังโตสูง โบรกเคาะเป้า 41 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG ณ เวลา 15:35 น. อยู่ที่ระดับ 37 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 5.71% โดยทำจุดสูงสุดที่ 37 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 35.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.51 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (29 เม.ย. 2565) ว่า คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2565 ของ IIG อยู่ที่ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.80% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 135.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ดีกว่าปกติที่ทุกๆปีที่จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดและมักจะชะลอ ตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหนุนมาจากรายได้ที่เติบโตในอัตราเร่ง เพิ่มขึ้น 14.3% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังได้งานพัฒนา Customer Experience/ Digital Marketing + Data จากลูกค้าธนาคารรายใหญ่มูลค่า 444 ล้านบาท (รับรู้ 5 ปีโดยปีแรกอยู่ที่ราว 120 ล้านบาท) ซึ่งจากรายได้ที่เร่งตัวแรงทำให้ได้ประโยชน์จาก Operating Leverage โดยแม้จะมีการ Outsource งานบางส่วน แต่ภาพรวม Net Margin คาดว่ายังสามารถยืนในระดับที่ดีเฉลี่ยราว 12%

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางกำไรของ IIG ในช่วงที่เหลือของปีจากทั้งรายได้ประจำจาก Subscription ราว 424 ล้านบาทต่อปี และ Backlog ที่สูง 546 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนรับรู้รายได้ในปีนี้ ทำให้ประมาณการรายได้ของทางฝ่ายวิจัยอยู่ที่ 943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน Secure แล้วราว 70% และยังมีโอกาสได้งานเพิ่มเติมระหว่างปีเข้ามาหนุน

ขณะที่ความต้องการลงทุนระบบ Cloud CRM และ ERP ที่แข็งแกร่ง รวมถึงคาดว่าจะเริ่มเห็นปัจจัยหนุนจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย Software ใหม่ๆ ธุรกิจ CEM Data Analytic และ JV ธุรกิจ Digital Insurance Platform ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีนัยยะมากขึ้น ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำ New High ได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยังคงราคาเป้าหมายของ IIG ที่ 41 บาท (Target PER 35 เท่า) ระยะยาวยังคงเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจาก Trend Digital Transformation ประกอบกับการพักฐานของราคาในช่วง 4 เดือนที่ผ่านกว่า 40% จากจุดสูงสุดช่วงต้น ปีทำให้ Upside กลับมาเปิดกว้างกว่า 10% จึงยังคงแนะนำ “ซื้อลงทุน”

Back to top button