แบงก์สยายปีก! รับสินเชื่อรายใหญ่-เช่าซื้อพุ่ง โบรกชู KBANK-SCB ท็อปพิค

“กลุ่มแบงก์” สินเชื่อเดือนเม.ย.โตดี รับสินเชื่อรายใหญ่-เช่าซื้อฟื้นตัว! โบรกแนะลงทุน “มากกว่าตลาด” ชู KBANK-SCB ท็อปพิก   


บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (24 พ.ค.2565) ว่า กลุ่มธนาคารสินเชื่อเดือน เม.ย. 2565 เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบเดือนก่อนหน้า จากสินเชื่อรายใหญ่และเช่าซื้อฟื้นตัว ภาพรวมสินเชื่อเดือน เม.ย. 2565 ทั้ง 8 ธนาคารที่ cover อยู่ที่ 10.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบเดือนก่อนหน้า จากสินเชื่อรายใหญ่ที่กลับมาฟื้นตัวได้ดี

โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุด เทียบเดือนก่อนหน้า คือ BBL และ KKP เพิ่มขึ้น 1.1% เทียบเดือนก่อนหน้า โดย BBL เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อรายใหญ่และต่างประเทศเป็นหลัก ส่วน KKP เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อบ้าน รองลงมาเป็น SCB ที่เพิ่มขึ้น 0.8% เทียบเดือนก่อนหน้า จากสินเชื่อรายใหญ่

ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อลดลงมากสุดเมื่อเทียบ เทียบเดือนก่อนหน้า คือ TISCO ลดลง 0.4% จากสินเชื่อรายย่อยในส่วนของเช่าซื้อเป็นหลัก ส่วนภาพรวมของเงินฝากในเดือน เม.ย.2565 อยู่ที่ระดับ 12.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% เทียบเดือนก่อนหน้า เพราะสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับสูง (ที่มา: ข้อมูลบริษัท)

KTBST: มีมุมมองเป็นบวกต่อสินเชื่อในเดือนเม.ย. 2565 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เทียบเดือนก่อนหน้า จากการกลับมาฟื้นตัวในส่วนของสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเช่าซื้อ

ขณะทีคาดว่า ภาพรวมของสินเชื่อในเดือน พ.ค.จะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสินเชื่อรายใหญ่อยู่ในช่วงเร่งตัวขึ้นรวมถึงยังมีโครงการช่วยเหลือลูกหนี้อยู่ในโครงการ Debt relief ซึ่งจะไม่มีการคืนหนี้จำนวนมากเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป

อย่างไรก็ดีให้ความสำคัญกับประเด็นของ NPL มากกว่าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่เชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะ ธปท.มีการต่อมาตรการไปถึง 31ธ.ค.2566 ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KBANK และ SCB เป็น Top pick

ขณะที่ KKP และ BBL ได้ sentiment เชิงบวกจากสินเชื่อที่โตเด่นในเดือน เม.ย. 2565 ยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูกเทรดบนค่า PBV ที่ระดับเพียง 0.82 เท่า ด้าน NPL แม้ว่าจะยังอยู่ในขาขึ้น แต่เป็นการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังมีมาตรการช่วยเหลือต่อถึงสิ้นปี 2566

โดยเลือก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็น Top pick โดยแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท อิงปี 2565 บนค่า PBV ที่ระดับ 0.90 เท่า เพราะเป็นธนาคารที่เน้น digital รายแรกและยังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้าน digital ต่อเนื่องซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป และสินเชื่อภาคการท่องเที่ยว (สัดส่วนราว 20% ของสินเชื่อรวม) จะทยอยเห็นการฟื้นตัวได้ดีในครึ่งหลังปีก 2565 จากการเริ่มเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

อีกทั้งเลือก บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็น Top pick โดยแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 150.00 บาท เพราะการเปลี่ยนธุรกิจใหม่เป็น Holding company จะทำให้ธุรกิจได้หลากหลายได้มากขึ้น และมี upside จากการ spin-off บริษัทลูกๆในอนาคตได้ ขณะที่แนวโน้มของการตั้งสำรองฯที่เพียงพอแล้วและ NPL ไม่น่ากลัวเท่าคู่แข่ง

ขณะที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 84.00 บาท และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท จะได้ sentiment เชิงบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นในเดือน เม.ย. 2565

Back to top button