UKEM บวกแรง 8% ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ยอดขายเคมีภัณฑ์เพิ่ม Q2 บุ๊กธุรกิจบิตคอยน์

UKEM บวกแรง 8% ย้ำรายได้ปีนี้โต 15% จากปีก่อน หลังยอดขายเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น-ราคาขายขยับตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น พร้อมรับรู้รายได้ธุรกิจเหมืองบิตคอยน์ตั้งแต่ไตรมาส 2/65


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(10 มิ.ย.2565)ราคาหุ้น บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM ณ เวลา 11:58 น. อยู่ที่ระดับ 2.24 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 7.69% สูงสุดที่ระดับ 2.32 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.06 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.08 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้(22พ.ค.65)นายพีรพล สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,040 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท มาจากปริมาณการจัดจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เคมี โดยเฉพาะสารทำละลาย (Solvents) ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาขายสินค้าก็ขยับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่เหนือ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ประเมินทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่ายังมีความต้องการ (ดีมานด์) ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าอาจระมัดระวังด้านการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ภาคการก่อสร้าง อสังหาฯ อาจชะลอตัวบ้าง แต่ก็คาดว่าสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมองหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจาบ้างแล้ว

ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่ง คือ บริษัท มหานครแคปปิตอล จำกัด ซึ่งทาง UKEM ถือหุ้นในสัดส่วน 60% โดยในปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี และนับว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ มีรายได้สม่ำเสมอ คาดว่าหากบริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพิ่ม จะทำให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น ส่วนธุรกิจมะพร้าว ที่ร่วมกับพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจต้นน้ำ มีพื้นที่อยู่ในภาคใต้ เพื่อตั้งโรงงานน้ำมันมะพร้าว และวัสดุจากมะพร้าว คาดว่าเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจเหมืองบิตคอยน์ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ หลังจากบริษัทที่ซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์เมื่อปี 2564 ยังดำเนินการไปด้วยดี ซึ่งเป็นการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกาะตามกระแสของโลก

สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 934.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 675.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.61 ล้านบาท ลดลง 73.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 69.67 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาขายสินค้าเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าปีก่อน และรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นการขายสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ทั่วไปเป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังคงเชื่อว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 จะเติบโตจากปริมาณการจำหน่ายที่ยังไปได้ดี

Back to top button