JWD บวก 5% ย้ำเป้ารายได้ 5 ปี ทะลุหมื่นล้าน เดินหน้าโครงการร่วมทุนพาร์ตเนอร์

JWD บวก 5% ย้ำเป้ารายได้ 5 ปี ทะลุหมื่นล้าน เดินหน้าโครงการร่วมทุนพาร์ตเนอร์ พร้อมมั่นใจครึ่งปีหลัง 65 ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังธุรกิจมีการปรับตัวดี ทั้งธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน -คลังสินค้าทั่วไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24 ส.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ณ เวลา 11.42 น. อยู่ที่ระดับ 18.00 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 5.26% สูงสุดที่ระดับ 18.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.79 ล้านบาท ราคาหุ้นแรงในเกือบ 5 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 18.10 บาท เมื่อวันที่ 31มี.ค.65

โดยดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน JWD กล่าวว่า ตามแผน 5 ปี (ปี 2564-2568) บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ระดับ 10,000 ล้านบาท โดยมาจากขยายกลุ่มขนส่ง การทำดีลควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) เพื่อให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด การขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งในประเทศเวียดนาม, กัมพูชา และอินโดนีเซีย รวมถึงสร้างการเติบโตแบบ B2C ผ่านอี-คอมเมิร์ซ และการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตร เป็นต้น

ด้านงบลงทุนปีนี้ ตั้งไว้ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 600-700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่คาดว่าจะใช้เงินน้อยลง เนื่องจากโครงการแอลฟา (ALPHA) ก็มีพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนด้วย

โดยโครงการแอลฟา เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งคลังสินค้าแรก อยู่ที่ บางนา กม.22 พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการในเดือน ส.ค.นี้ นอกจากนี้ยังจะมีอีก 2 โครงการคือที่ บางนา กม.19 ขนาดพื้นที่ 73,000 ตารางเมตร คาดจะเปิดให้บริการไตรมาส 3/2566 และที่รังสิต ขนาดพื้นที่ 57,000 ตารางเมตร คาดจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2566

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการ PACT เป็นคลังสินค้าห้องเย็น โดยบริษัทร่วมลงทุนกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ขนาดพื้นที่ 4,500 ตารางเมตร 19,000 พาเลท คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2566 อีกทั้ง บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนลงทุนขยายสาขาร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ในธุรกิจ Self-Storage (ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า)

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวม 1,398.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 154.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจหลักส่วนใหญ่มีอัตราเติบโตที่ดี และรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจที่เข้าลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังธุรกิจมีการปรับตัวได้ดี ทั้งธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน และธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป รวมถึงได้รับงานขนส่งรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น

สำหรับดีล M&A บริษัทพยายามทำทุกปี ซึ่งปีนี้จะต้องมีความระมัดระวังในการคัดสรร จึงมีที่อยู่ระหว่างการเจรจา และยังไม่มีข้อมูลที่สามารถแจ้งได้ในขณะนี้ ขอให้ติดตามความคืบหน้าในช่วงครึ่งปีหลัง แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด

Back to top button