4 หุ้น “ไฟแนนซ์” ร่วงต่อ! เซ่น “สคบ.” คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อกระทบรายได้

หุ้นไฟแนนซ์ร่วงต่อ! โบรกแนะ “ขาย” กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นลบ ขณะที่ สคบ.คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่- รถยนต์มือสอง-รถจักรยานยนต์ สะเทือนรายได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค. 65) ณ เวลา 12:30 น. ปิดตลาดภาคเช้า กลุ่มไฟแนนซ์โดนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมานำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่ายังมีความกังวลต่อเนื่องจากประเด็น สคบ. ได้สรุปผลการประชุมร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับเรื่องเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จะมีผลใน 90 วันนับจากประกาศ โดยกำหนดเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ต่อปี รถยนต์มือสองไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี

โดยยอมรับว่ากลุ่มได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้ประกอบการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยสินเชื่อรถจักรยานยนต์เฉลี่ย 30-32% ต่อปี ซึ่งต้นทุนผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงินจะต่ำกว่าผู้ให้บริการที่เป็นธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-Bank) และการแข่งขันของกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง

ผลดังกล่าวยังเกิดแรงเทขายหุ้นไฟแนนซ์ออกมาต่อเนื่อง นำโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ 24.80 บาท ลบไป 1.45 บาท หรือลงไป 5.52% สูงสุดที่ระดับ 25.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 632.15 ล้านบาท

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ 34.00 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 4.90% สูงสุดที่ระดับ 35.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 319.31 ล้านบาท

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ 40.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.59% สูงสุดที่ระดับ 41.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 40.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 367.62 ล้านบาท

บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4.34 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.56% สูงสุดที่ระดับ 4.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.32 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.15 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 ต.ค.65) ว่ายังแนะนำ ทยอยขาย/short ในหุ้นกลุ่มไฟแนซ์ อย่าง KTC, MTC, SAWAD, TIDLOR จากคุณภาพสินทรัพย์ในไตรมาส 2/65 ที่ดูน่ากังวลมากขึ้น บวกกับการที่ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็จะส่งผลลบต่อต้นทุนการเงินของกลุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นอกจากนั้นการปรับเพดานสินเชื่อเช่าซื้อรถจักยานยนต์ใหม่ที่ถูกจำกัดไว้ที่ 23% (คาดเริ่มต้นปีหน้า) จากอัตราดอกเบี้ยตลาดที่ประมาณ 30% ก็จะกดดันกำไรของกลุ่ม

นอกจากนั้นยังมีแนวโน้มที่กนง. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นลบกับกลุ่มไฟแนนซ์ ส่งผลให้ต้นทุนปรับตัวขึ้นและยีลด์ปรับลดลง ดังนั้นแนะนำขายทำกำไรต่อในสัปดาห์นี้

Back to top button