SAT-AH ดีดบวก! รับยอดส่งออกรถยนต์ปี 65 ทะลุเป้า 1 ล้านคัน

SAT-AH ดีดบวก! รับยอดส่งออกรถยนต์ปี 65 ทะลุเป้า 1 ล้านคัน หลังปัญหาชิปคลี่คลาย กางแผนปี 66 กำลังการผลิตแตะ 1.95 ล้านคัน โบรกเชียร์ซื้อ SAT-AH อัพกำไรปีนี้โตเด่น พ่วงเป้าใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24 ม.ค.65) ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์บวกคึก! รับยอดส่งออกรถยนต์ปี 65 โตแรง นำโดยบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH  ณ เวลา 12:02 น. อยู่ที่ระดับ 33.50 บาท บวก 0.50 บาท ราคาสูงสุด 32.50 บาท ราคาต่ำสุด 32.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 10.67 ล้านบาท

บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT โดย ณ เวลา 12:05 น. อยู่ที่ระดับ 21.20 บาท บวก 0.10 บาท ราคาสูงสุด 21.30 บาท ราคาต่ำสุด 21.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.55 ล้านบาท

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานฯ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ปีนี้ทะลุเป้า 1 ล้านคัน กลับมาอยู่ในสถานะเดียวกันช่วงก่อนเกิดโควิด-19 หลังได้รับมอบมอบชิป แต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ส่งออก

ขณะที่ยอดส่งออกเดือน ธ.ค.65 อยู่ที่ 111,605 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.17% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปี 65 อยู่ที่ 1,000,256 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.28% จากปีก่อน

สำหรับในปี 66 คาดว่าจะมีกำลังการผลิตรถยนต์ 1.95 ล้านคัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.53% จากปีก่อน โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1.05 ล้านคัน และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SAT ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท ประเมินกำไรปกติไตรมาส 4/65 ยังไม่เด่นที่ 211 ล้านบาท (โต10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,ลดลง 16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนได้จากฐานต่ำปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างกิจการ แต่จะลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้าจากต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งจากค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น และต้นทุนเหล็กที่ยังสูง ส่งผลให้ GPM ลดลงเหลือ 18.0% จากไตรมาส 3/65 ที่ 20.0% (ไตรมาส 3/65 มีรายได้เพิ่มชดเชยต้นทุนเหล็กที่เพิ่มขึ้นราว 20 ล้านบาท) ดังนั้น ส่งผลให้เรายังประเมินปี 65 จะมีกำไรปกติที่ 929 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 66 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.04 พันล้านบาท โต 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดผลิตรถยนต์ที่จะยังเติบโตได้ราว +5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มอีก 200-300 ล้านบาท ขณะที่ GPM จะกลับมาดีขึ้นมากเป็น 19.0% (2022E = 18.4%) จากสต็อกวัตถุดิบเหล็กนำเข้าที่ทยอยลดลงรวมถึงการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น

ราคาหุ้น outperform SET +12% ในช่วง 6 เดือน จากยอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัว แต่ underperform SET ลดลง 5% ในช่วง 1 เดือน จากต้นทุนที่ยังสูง ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากยอดผลิตรถยนต์ที่จะยังดีขึ้นต่อเนื่อง และกำไรปี 66 จะกลับมาเติบโต ขณะที่ระยะยาวยังมีโอกาส upside จากการขยายธุรกิจสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (E Tuk, E Bus) ด้าน valuation ยังน่าสนใจ

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AH คงคำแนะนำชื่อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 38 บาท (จาก 36 บาท) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี xu 65-66 ขึ้นอีก 9% และ 7% เป็น 1.67 พันล้านบาท และ 1.71 พันล้านบาทตามลำดับ หลังจากที่ 1) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายเพื่อสะท้อนคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจาก VinFast และ 2) เพิ่มกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 100 ล้านบาทสำหรับปี 65 ยังคงคำแนะนำซื้อ

Back to top button