“ธพ.” เปิดยอดใช้น้ำมัน 4 เดือนแรกเฉลี่ย 159 ล้านลิตรต่อวัน โต 3.1%

กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดใช้น้ำมันรอบ 4 เดือนแรก โตขึ้น 3.1% จากช่วงปีก่อน ชี้สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างเห็นได้ชัด คาดมีแนวโน้มใกล้เคียงกับปี 62


นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่าในวันนี้ ( 8 มิ.ย. 66) คาดการณ์ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดปี 2566 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับมาใกล้เคียงปี 2562 เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการขนส่งและการใช้พลังงานปริมาณมาก เป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นน้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เนื่องจากหลายประเทศยังคงมาตรการจำกัดการเดินทาง ประกอบกับสายการบินอยู่ระหว่างการฟื้นฟู

ทั้งนี้ภาพรวมครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคาดว่าจะมีการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 11.8% น้ำมันกลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 12.1% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 23.7% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 20.2% และก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มขึ้น 7.7%

สำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 4 เดือนของปีนี้ ระหว่าง (ม.ค.-เม.ย. 2566) เฉลี่ยอยู่ที่ 158.86 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.1% โดยเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 31.86 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 5.8% การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 74.63 ล้านลิตร/วัน ลดลง 3.4% การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.89 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 92.4% การใช้ก๊าซหุงต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 17.18 ล้านก.ก./วัน ลดลง 3.3% การใช้เอ็นจีวีเฉลี่ยอยู่ที่ 3.50 ล้านก.ก./วัน เพิ่มขึ้น 6.4%

ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 1,098,731 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 7.9% การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 151,539 บาร์เรล/วัน ลดลง 2.6% คิดเป็นมูลค่า 15,164 ล้านบาท/เดือน

สำหรับแนวโน้มการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันรวมทั้งปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 7.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการขนส่งและการใช้พลังงานปริมาณมาก คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 11.80% น้ำมันกลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 12.10% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 23.70% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 20.20% และ LPG เพิ่มขึ้น 7.70% ทั้งนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

Back to top button