“เพื่อไทย” แถลงชื่นมื่น “ชาติไทยพัฒนา” ร่วมรัฐบาล

เพื่อไทย เชิญ ชาติไทยพัฒนา ตั้งรัฐบาลสุดชื่นมื่น ปัดเจรจาก้าวไกล แค่ไปรับฟังความเห็น


วันที่ 10 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีเสียงอยู่ 10 เสียง ซึ่งมี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา  นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ร่วมด้วย ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

โดย นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ส่งเทียบเชิญมาที่พรรคชาติไทยพัฒนา หลังจาก 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ไปร่วมหารือจุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนา วันนี้ แสดงให้เห็นว่า 2 พรรค มีแนวคิด นโยบาย ทัศนคติไปในทิศทางเดียวกัน และทำงานด้วยกันได้ และขอบคุณเพื่อไทยที่ส่งสารเชิญมา ก็ยินดีตอบรับคำเชื้อเชิญในการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และเชื่อมั่นศักยภาพเพื่อไทย ในการเดินหน้า สร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจ และหลายๆด้าน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ เรามีวิกฤต 3 วิกฤต ถ้าไม่ได้รับการแก้ปัญหาจะยิ่งมากขึ้น คือ วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ และ วิกฤตความขัดแย้ง พรรคเพื่อไทย และ พรรคชาติไทยพัฒนา จะจับมือมีส่วนร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งส.ส. และ ส.ว. เลือกนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยเร็ว

เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนา กังวลหรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทยคุยกับพรรคก้าวไกล นายวราวุธ กล่าวว่า การที่แต่ละพรรคได้แสดงเจตจำนงทำงานร่วมกันแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของทุกพรรคที่จะหาคะแนนเสียง ในการโหวตเลือกนายกฯได้เกิน 375 เสียง ก็เป็นสิทธิแต่ละพรรค ไม่ว่าจะเพื่อไทย หรือ ชาติไทยพัฒนา เราก็ต้องช่วยกันหาคะแนนเสียง ช่วยกันโหวต เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่น่าจะเป็นปัญหา

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การไปพบปะพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเมื่อวาน ไม่ใช่การเชิญร่วมรัฐบาล และหลังจากนี้ก็จะไม่มีการเชิญพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล เพราะพรรคก้าวไกลจะไปเป็นฝ่ายค้าน ร่วมทำงานการเมืองที่สร้างสรรค์ รวมทั้งพรรคเพื่อไทยได้ยืนยันกับพรรคก้าวไกลไปแล้วว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ทุกเรือง ยกเว้นการแก้ไขมาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ

Back to top button