KLINIQ เด้ง 2% ลุ้นกำไรปี 67 “ออลไทม์ไฮ” ลุยขยายสาขาใหม่เพิ่ม

KLINIQ เด้ง 2% ลุ้นกำไรปี 67 ทำออลไทม์ไฮ ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเดอะคลีนิกค์เพิ่ม พร้อมกางแผนธุรกิจปี 66 - 70 สู่การเป็นธุรกิจความงาม “บิวติเวิร์ส” ด้วยเงินลงทุนราว 300 ล้านบาทต่อปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 ก.พ.67) ราคาหุ้น บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ณ เวลา 15:32 น. เปิดตลาดช่วงภาคบ่ายอยู่ ที่ระดับ 40.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.90% สูงสุดที่ระดับ 40.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 39.25บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40.14 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมาตอบรับข่าว นายอภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโต 30-40% จากปีก่อน จากการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 15 สาขา และการดำเนินกลยุทธต่อยอดความสำเร็จจากธุรกิจหลักไปสู่ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เพื่อเชื่อมโยง The Ecosystem อาทิ “KLINIQ SPA” ซึ่งเป็น เมดิคัล สปาหรือสปาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพ ที่มีผู้เชี่ยวชาญให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดดเด่นด้วยการผสมผสานหลักกายภาพบำบัด (Physiotherapy) กับศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย นำมาประยุกต์ให้มีความจำเพาะกับแต่ละปัญหา เพื่อช่วยลดความตึงเครียดและเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จึงทำให้เกิดการฟื้นฟูร่างกายในหลากหลายมิติ

รวมทั้งมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดตัว “THE KLINIQUE-Stem Cell Harvesting Center” (TSHC) ศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากสเต็มเซลล์ที่มีมาตรฐานสากล ปลอดภัย จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมหาศาลจากเทรนด์ดูแลสุขภาพชะลอวัย

“โดย ปี 67 แนวโน้มการเติบโตของ KLINIQ ยังคงดีต่อเนื่องจากปี 66 ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมากตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 66 ส่งผลให้ทั้งปีเป็นไปตามแผน สร้างผลประกอบการ All Time High ทั้งรายได้ กำไร เป็นผลจากกลยุทธ์การขยายสาขา และการต่อยอดธุรกิจใน Ecosystem เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งการขยายสาขาอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมหัวเมืองใหญ่และกรุงเทพฯ ขณะที่ธุรกิจใหม่ทั้ง เมดิคัล สปา และศูนย์เก็บสเต็มเซลล์ ก็เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นเทรนด์ด้านการดูแลสุขภาพ การชะลอวัยนายอภิรุจ กล่าว

ทั้งนี้ คาดหวังว่าปี 67 KLINIQ จะทำ All Time High ทำรายได้ กำไร อีกครั้ง ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี (66-70) ต้องการสร้างอาณาจักร “เดอะคลีนิกค์” ให้เป็น “จักรวาลความงาม” หรือบิวติเวิร์ส (Beauty+Universe) กลยุทธ์สานเป้าหมาย “บิวติเวิร์ส” บริษัทจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาทต่อปี เปิดเดอะคลีนิกค์ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 สาขา ส่งผลให้ภายในปี 70 มีคลินิกให้บริการแก่ลูกค้าทะลุ  100 สาขา

สำหรับในปี 66 เดอะคลินิกค์ ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในสัดส่วนเมื่อเทียบรายได้ การเติบโตของเดอะคลินิกค์ จากปี 65 มีรายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ผ่านมา 9 เดือนมีรายได้ทะลุ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปี เดอะคลินิกค์ มีรายได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,200 บาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30-40% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าโตต่อเนื่องในปี 67 ในระดับ 30-40% เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าและเป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำที่คนไข้ทั้งในและต่างประเทศกล่าวถึง จากการสร้าง Brand Awareness , เทคนิคการรักษาของทีมแพทย์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เดอะคลีนิกค์ขยายสาขาในปี 66 จำนวนถึง 15 สาขา

Back to top button