CKP บวก 4% โบรกแนะซื้อเป้า 4.50 บ. เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลวงพระบางตามแผน

CKP บวก 4% โบรกแนะซื้อเป้า 4.50 บาท เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลวงพระบางตามแผน คาดเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ COD ต้นปี 73


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 มี.ค.67) บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ณ เวลา 15:51 น. อยู่ที่ระดับ 4.00 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 4.71% ราคาต่ำสุด 3.82 บาท ราคาสูงสุด 3.82 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 65.05 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุว่า ยังคงคำแนะนำ ”ซื้อ” หุ้น CKP ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 4.50 บาท หลังจากได้ไปเยี่ยมชมโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง และไซยะบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบว่างานก่อสร้างโครงการหลวงพระบาง คืบหน้าไปด้วยดี และน่าจะเริ่ม SCOD ได้ตามกำหนดในปี 2573

ทั้งนี้ งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,460 เมกะวัตต์ (MW) ที่ สปป.ลาว คืบหน้าไปแล้ว 25.8% ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย และคาดว่าจะเริ่มเปิดเดินเครื่อง (unit operation period หรือ UOP) ได้ในปี 2571 และเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในเดือนมกราคม 2573 โดยโครงการนี้จะมีจำนวนกังหันหลัก 7 x 200 เมกะวัตต์ และกังหันช่วย (auxiliary turbine) 60 เมกะวัตต์ สำหรับกระแสน้ำเพื่อดึงดูดปลา โครงการมีการจัดหาเงินทุนจาก Project financing เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีสัดส่วนอัตราหนี้สินต่อทุน (D:E) อยู่ที่ 2.75 เท่า เป็นสินเชื่อ 1.15 แสนล้านบาท คาดว่า โครงการนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 6,688 กิกะวัตต์ชั่วโมง ต่ำกว่าโครงการไซยะบุรี (XPCL) 9.2% แม้ว่ากำลังการผลิตจะสูงกว่าก็ตาม เนื่องจากลำน้ำสาขาน้อยกว่า

สำหรับกรณีทริสเรทติ้ง (TRIS rating) ได้ปรับลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ของ CKP จาก “A-” เหลือ “BBB+” จะส่งผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น โดย TRIS เป็นห่วงสัดส่วนหนี้ต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งสูงถึงเกือบ 5 เท่า (ใกล้ชนเพดานแล้ว) ดังนั้นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของ CKP จึงจะเพิ่มขึ้นอีกจากการออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ในปีนี้ (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) จะทำให้ประมาณการกำไรปี 2567 มี downside เพียงประมาณ 1.3% เท่านั้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอายุของหุ้นกู้ล็อตใหม่ด้วย ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยของ XPCL ในไตรมาส 4/2567 อยู่ในเกณฑ์สูงที่ 7% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะทำ interest rate swap ในไตรมาส 2/2567 จะช่วยป้องกัน downside จากการขึ้นดอกเบี้ย มองว่า CKP น่าจะถูกปรับเพิ่มอันดับเครดิตในปีหน้า จากการชำระคืนหนี้ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) และโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่นระยะที่ 2 (BIC-2) ทำให้สัดส่วนหนี้ของบริษัทย่อยต่อหนี้รวมกลับลงมาอยู่ต่ำกว่าเพดาน 50%

สำหรับราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 4.50 บาท คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 จะยังขาดทุนอยู่ แต่ผลขาดทุนน่าจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน CKP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 14 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3,633 เมกะวัตต์

Back to top button