SVI บวก 5% โบรกชูเป้า 8.60 บาท มองบวกดีล CCTC สร้างศูนย์ PCB ไทย

SVI วิ่ง 5% โบรกชี้ผนึก CCTC ตั้งโรงงานผลิตแผงวงจรพิมพ์ในไทย มูลค่าลงทุน 3.8 พันล้านบาท หนุนรายได้แตะ 2.2 พันล้านต่อปี หนุนกำไรโต เพิ่มศักยภาพแข่งขันตลาดโลก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 เม.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ณ เวลา 11:22 น. อยู่ที่ระดับ 8.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 5.13% สูงสุดที่ระดับ 8.35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17.40 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SVI และ China Circuit Technology Co., Ltd. (CCTC) จะร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Advanced Interconnection Technology Co., Ltd. ในประเทศไทย โดย SVI ถือหุ้นในสัดส่วน 75% และ CCTC ถือหุ้น 25% เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) แบบหลายชั้นและแบบ HDI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าทั่วโลก ทั้งนี้ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2568

สำหรับเงินลงทุนรวมของโครงการอยู่ที่ 3,889 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนจดทะเบียน 1,600 ล้านบาท โดย SVI จะลงทุน 1,200 ล้านบาท และ CCTC ลงทุน 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะจัดหาโดยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดย SVI จะสนับสนุนเงินสดจำนวน 1,010 ล้านบาท และที่ดินมูลค่า 187 ล้านบาท ปัจจุบัน SVI มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 0.8 เท่า และมีหนี้สินสุทธิอยู่ที่ 992 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567

ทั้งนี้ โรงงานแห่งใหม่จะตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี โดยการก่อสร้างเฟสที่ 1 จะใช้ระยะเวลา 15 เดือน คาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2569 และจะมีกำลังการผลิตเต็มที่ 204,000 ตารางเมตรต่อปี ภายในปีที่ 3 หรือในปี 2572 สำหรับเฟสที่ 2 จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 156,000 ตารางเมตรต่อปี ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวม 360,000 ตารางเมตรต่อปี ภายในปีที่ 5 หรือในปี 2574

ขณะที่โครงการร่วมทุนนี้จะเพิ่มกำลังการผลิต PCB รวม 3.87 ล้านตารางฟุตต่อปี คิดเป็นประมาณ 8.95% ของกำลังการผลิตรวม 43.2 ล้านตารางฟุตต่อปีของ KCE โดยหากใช้ราคาขายเฉลี่ยที่ 16–17 ดอลลาร์สหรัฐต่อฟุต ศักยภาพรายได้จากกำลังการผลิตเต็มที่อาจสูงถึง 2.2 พันล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของรายได้รวมปี 2567 ของ SVI ทั้งนี้ หากใช้อัตรากำไรสุทธิ (NPM) ที่ 12% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ที่ 10% คาดว่าการร่วมทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างกำไรให้ SVI อยู่ระหว่าง 260–350 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม รายได้และอัตรากำไรที่แท้จริงยังขึ้นอยู่กับส่วนผสมของลูกค้าขั้นสุดท้ายและระดับความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่งผลต่อการกำหนดราคาและต้นทุนการผลิต

บล.ทิสโก้ ให้มุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในครั้งนี้ โดยเห็นว่า SVI จะได้รับประโยชน์จากการถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงถึง 75% และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิต PCB ชั้นสูงจาก CCTC อย่างไรก็ดี ยังมีข้อสงสัยว่าเหตุใด CCTC จึงถือหุ้นเพียง 25% ทั้งที่ SVI มีความจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและฐานลูกค้าจาก CCTC ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ สำหรับราคาหุ้น SVI บล.ทิสโก้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 8.60 บาท

Back to top button