ดอลล์อ่อนค่าหลังข้อมูลศก.สหรัฐย่ำแย่

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (29 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งทำให้มีความวิตกเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (29 ก.พ.) อ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0883 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0928 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.3916 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3861 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 112.83 เยน จาก 113.91 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์ จาก 0.9974 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7140 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7123 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวย่ำแย่ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอหลายรายการ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโก หดตัวลงสู่ระดับ 47.6 ในเดือนก.พ. หลังพุ่งแตะ 55.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

การดิ่งลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวลง ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 54.0 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว

ขณะเดียวกัน สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 106 ในเดือนม.ค. โดยได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว, สต็อกบ้านที่มีอยู่จำกัด และราคาบ้านที่พุ่งสูง ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนม.ค.

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนต่างผิดหวังผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ หรือ G20 ซึ่งไม่มีแนวคิดริเริ่มด้านนโยบายที่เฉพาะเจาะจง แม้ที่ประชุมเห็นพ้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด แต่นักลงทุนมองว่าการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการรับมือกับเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา

Back to top button