“กลุ่มมหากิจศิริ” ได้ไปต่อ! ศาลสั่งปฏิเสธตั้งบริษัทบริหาร QCP ชี้ไร้ความเชี่ยวชาญ

“ศาลแพ่งกรุงเทพใต้” ปฏิเสธคำขอเนสท์เล่ ตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน QCP ชี้ขาดคุณสมบัติและความเป็นกลาง “กลุ่มมหากิจศิริ” ยังเดินหน้าบริหารกิจการต่อ ท่ามกลางข้อพิพาทผู้ถือหุ้นที่ยังไม่ยุติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งปฏิเสธคำขอของฝ่ายผู้ร้อง (เนสท์เล่) ในการแต่งตั้งบริษัท แกรนธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้เข้ามาบริหารทรัพย์สินของบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด หรือ QCP หรือกลุ่มมหากิจศิริชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดีข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นสองฝ่าย

โดยให้เหตุผลว่า บริษัทแกรนธอนตัน แม้มีประสบการณ์ด้านการฟื้นฟูกิจการ แต่ไม่เคยจัดการทรัพย์สินในกรณีที่ผู้ถือหุ้นมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงเช่นนี้ ทั้งยังมีข้อกังขาเรื่องความเป็นกลาง เนื่องจากได้รับการติดต่อจากฝ่ายผู้ร้องเพียงฝ่ายเดียว

ทั้งนี้ ศาลเห็นว่าการแต่งตั้งผู้จัดการภายนอก ณ เวลานี้ยังไม่เหมาะสม แต่เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นฝ่ายผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งให้กรรมการฝ่ายผู้คัดค้านทั้งสาม จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทเป็นรายเดือน ส่งต่อศาลพร้อมสำเนาให้ผู้ร้อง ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว อนุญาตให้กรรมการฝ่ายผู้คัดค้านใช้เสียงข้างมากได้ โดยไม่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัทที่กำหนดให้ใช้เสียง 5 จาก 7 เสียง ทำให้ฝ่ายผู้คัดค้านสามารถใช้เสียงข้างมากได้ทุกวาระ เพื่อบริหารกิจการต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีมติให้พักงานนายรามอน เมนดิวิล กิล ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายผู้ร้องในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ที่สั่งปิดโรงงาน ทำให้ฝ่ายผู้คัดค้านสามารถกลับมาดำเนินงานและตรวจสอบการใช้จ่ายของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามคำสั่งดังกล่าวจะช่วยให้ ผู้คัดค้าน สามารถเข้ามาดำเนินการกิจการของ QCP ผลิตกาแฟเพื่อคนไทยได้ต่อไป

Back to top button