
CPN บวก 2 วันติด! ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม รับ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” กระตุ้นใช้จ่าย
CPN บวกต่อ 1% ลั่นผลงานครึ่งปีแรกแจ่มหลังธุรกิจหลักเติบโตรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น พร้อมคาดผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก รับแรงหนุนภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณดีขึ้น บวกโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ รวมทั้งมีแผนเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค และเซ็นทรัล กระบี่ รวมถึงโครงการที่พักอาศัยบางส่วน ส่งผลรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ณ เวลา 14:46 น. อยู่ที่ระดับ 51.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.98% สูงสุดที่ระดับ 52.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 51.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 144.38 ล้านบาท
ด้านนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง CPN เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ธุรกิจหลักของบริษัท (ไม่รวมธุรกิจที่พักอาศัย ซึ่งอุตสาหกรรมมีปัจจัยท้าทายเฉพาะตัว) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้ขยายตัวต่อเนื่อง และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทมีกำหนดประกาศงบการเงินไตรมาส 2/2568 ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 นี้
ขณะที่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง มีทิศทางที่สดใสกว่าครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีสัญญาณดีขึ้น ประกอบกับโครงการภาครัฐอย่าง “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค และเซ็นทรัล กระบี่ รวมถึงโครงการที่พักอาศัยบางส่วน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับภาพรวมทั้งปี 2568 บริษัทคาดว่ารายได้จากการเช่าและบริการ ซึ่งเป็นรายได้หลัก จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีแรงสนับสนุนจากกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development ที่ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของแต่ละโครงการ ทำให้ศูนย์การค้าของบริษัทเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้เช่า และยังช่วยให้ผู้เช่าสามารถเพิ่มยอดขายได้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ประสบการณ์ใหม่” ให้กับผู้ใช้บริการ ทำให้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ (traffic) เติบโตขึ้นจากปีก่อน
“ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว ประกอบกับลักษณะธุรกิจของ CPN ที่มีความแข็งแรงเป็นทุนเดิม บริษัทมองว่าปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจโลก หรือกำลังซื้อที่เปราะบาง จะส่งผลกระทบในระดับจำกัด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกหลายด้านที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป ได้แก่ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่สนับสนุนการบริโภคในประเทศ” นางสาวนภารัตน์ กล่าว