
RCL เด้ง 7% โชว์กำไร Q2 ทะลุ 2 พันลบ. เคาะปันผล 0.50 บ. ขึ้น XD 22 ส.ค.นี้
RCL บวก 7% หลังรายงานกำไรไตรมาส 2/68 เติบโต 74% ทะลุ 2 พันล้านบาท รับแรงหนุนรายได้รวมแตะ 9.31 พันล้านบาท พร้อมค่าใช่จ่ายบริหารลด เตรียมจ่านปันผล 0.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 22 ส.ค. กำหนดจ่ายเงินปันผล 5 ก.ย. 68
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (8 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ณ เวลา 15:20 น. อยู่ที่ระดับ 31.25 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 6.84% สูงสุดที่ระดับ 31.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 29.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 206.81 ล้านบาท
RCL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
บริษัทรายงานกำไรไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 2,004.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,148.37 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้รวมอยู่ที่ 9,316.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7,674.04 ล้านบาท อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายบริหารอยู่ที่ 428 ล้านบาท ลดลง 0.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 430 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภาพรวมสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 4,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,302 ล้านบาท หรือ 130.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,761 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการเดินเรือที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 สอดคล้องกับปริมาณขนส่งที่เพิ่มขึ้น 144,000 ตู้ หรือ 12.20% ซึ่งสะท้อนถึงผลจากการขยายกองเรือ โดยมีเรือใหม่จำนวน 6 ลำ ทั้งขนาด 12,000 TEUs และ 7,000 TEUs เข้าสู่กองเรือของบริษัทฯ ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ รวมถึงการเพิ่มเครือข่ายการให้บริการและการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงดำเนินมาตรการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดควบคู่ไปกับการเสริมศักยภาพของกองเรือใหม่ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้นเพียง 13% ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่เพิ่มขึ้น 28% ดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ภายใต้บริบทของความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การค้าโลก
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 จากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อทิศทางการค้าโลก และเหตุการณ์ความไม่สงบในช่องทางเดินเรือหลัก ซึ่งเพิ่มต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง
รวมถึงอุปทานเรือใหม่ที่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมากตั้งแต่ปี 2567 ส่งผลให้อัตราค่าระวางเฉลี่ยปรับตัวลดลง ปัจจัยดังกล่าวนี้ได้เพิ่มความซับซ้อนและความท้าทายในการบริหารจัดการ
ในการนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ เช่น การปรับกองเรือให้มีความหลากหลายทั้งขนาดของเรือและประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ลาตินอเมริกา พร้อมทั้งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพและความต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน ยังเพิ่มศักยภาพของกองเรือใหม่ให้มีความทันสมัย ประหยัดพลังงาน และรองรับพลังงานทางเลือก นั่นไม่เพียงแต่สอดคล้องกับมาตรการสิ่งแวดล้อมของ IMO เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับมาตรการควบคุมต้นทุนของบริษัทฯ ซึ่งส่งเสริมความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ คณะกรรมการมีมติจ่ายปันระหว่างกาลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 68 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 จากกำไรสะสมเป็นเงินสดในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 22 ส.ค. 68 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 ก.ย. 68