ดาวโจนส์ปิดบวก 67 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (7 มี.ค.) ที่ 17,073.95 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,708.25 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.19% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,001.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือ +0.09%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนส่วนใหญ่มาจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.5% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ภายในประเทศต่อไป

รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ยืนยันในการประชุมว่าสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนที่วางไว้ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถหนุนเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพต่อไปได้ แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนก็ตาม

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 190,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.6% ส่วนหุ้นมอนซานโต และหุ้นดูปองท์ พุ่งขึ้นอย่างน้อย 2.4% ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนม.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.

Back to top button