TACC ดีด 2% มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ ลุย M&A เสริมแกร่ง โบรกชูเป้า 6 บ.

TACC บวก 2% ผู้บริหารมั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ เดินหน้าออกสินค้าใหม่ - M&A เสริมแกร่งธุรกิจ หลังกำไรไตรมาส 2/68 เติบโต 16% จากยอดขาย 7-Eleven หนุนรายได้ครึ่งปีแรกทะลุ 1.1 พันล้าน โบรกคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท มองปันผลสูงสุดกลุ่มเครื่องดื่ม


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (19 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ณ เวลา 10.44 น. อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.00% สูงสุดที่ระดับ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.18 ล้านบาท

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร TACC เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 68 มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกทั้งในส่วนของธุรกิจ B2B (7-Eleven) และ B2C (Non 7-Eleven) โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมถึงออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (7-Select) และ เครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Caf

พร้อมกับยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจที่มาจากการ M&A และ JV เพื่อเป็น New S-Curve และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ผลักดันการใช้แนวคิด ESG เป็นแนวคิดสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

ร่วมกับการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะสนับสนุนรายได้รวมปี 2568 ทะลุ 2,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10%

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 577.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.99 ล้านบาท คิดเป็น 16.07% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จาการขาย 497.69 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 79.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.70 ล้านบาท หรือ 15.66% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.35 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 68 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,107.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.02 ล้านบาท คิดเป็น 15.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 955.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 152.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.44 ล้านบาท หรือ 18.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 128.72 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงปริมาณการบริโภคในประเทศและเป็นฤดูกาลของการขายเครื่องดื่ม อีกทั้งกระแสความนิยมของเครื่องดื่มชาไทยและชาเขียวในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยผลักดันยอดขายเพิ่ม รวมไปถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรหลักของ TACC ในไตรมาส 2/2568 เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 79 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งในร้าน 7-Eleven ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของยอดขายในไตรมาสนี้

ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มที่ดีจะดำเนินต่อไป โดยได้รับอานิสงส์จากความนิยมของอาหารพร้อมทานในเครือ ซีพี ออลล์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูงที่ 10.9% (ประมาณการปี 2568) ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่ม

Back to top button