CPAXT นำทีม “ค้าปลีก” วิ่งรับ “คนละครึ่ง” คัมแบ็ก ต.ค.นี้ ดันยอดขาย Q4 โตแกร่ง

6 หุ้นบวกแรง รับอานิสงส์ “คนละครึ่ง” เฟสใหม่คาดเริ่มใช้ ต.ค.นี้ โบรกมองช่วยพยุงยอดขายในช่วงไตรมาส 4/68 ซึ่งเดิมมีเม็ดเงินจากโครงการ Digital Wallet เข้ามาแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.ย.68) ณ เวลา 10:06 น. ราคาหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL อยู่ที่ระดับ 48.50 บาท บวก 1 บาท หรือ 2.11% สูงสุดที่ระดับ 49 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 48.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 694.90 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT อยู่ที่ระดับ 21.30 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 7.58% สูงสุดที่ระดับ 21.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 325.08 ล้านบาท

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP อยู่ที่ระดับ 18.60 บาท บวก 1 บาท หรือ 5.68% สูงสุดที่ระดับ 18.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 18.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100.20 ล้านบาท

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC อยู่ที่ระดับ 20.10 บาท บวก 1 บาท หรือ 5.24% สูงสุดที่ระดับ 20.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104.20 ล้านบาท

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC อยู่ที่ระดับ 24.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 1.68% สูงสุดที่ระดับ 24.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48.60 ล้านบาท

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP อยู่ที่ระดับ 3.16 บาท บวก 0.32 บาท หรือ 11.27% สูงสุดที่ระดับ 3.38 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.20 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” เฟสใหม่ได้ทันที หลังรัฐบาลกำหนดนโยบายชัดเจน โดยใช้งบประมาณ 25,000 ล้านบาทที่อนุมัติไว้แล้ว ทั้งระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และฐานข้อมูลร้านค้ากว่า 1 ล้านรายมีความพร้อมรองรับ คาดสามารถเริ่มให้บริการได้ภายใน 30-45 วัน หรือเร็วที่สุดเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้มองว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย สร้างผลดีโดยตรงต่อภาคการบริโภคภายในประเทศ โดยสามารถใช้งบกลางประจำปี 2569 ที่อนุมัติแล้วมาดำเนินการ โดยหากยึดตามเงื่อนไขของโครงการก่อนหน้าที่ใช้ในช่วงปี 2563-2565 แม้ร้านค้านิติบุคคลไม่สามารถเข้าร่วม แต่ผลลัพธ์พบว่าการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นไปในทิศทางบวก สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19

โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนการขายส่งและกลุ่มลูกค้า HoReCa อาทิ CPAXT, BJC และ CRC (ซึ่งมีรายได้จากธุรกิจ Go Wholesale ประมาณ 3%) หากสามารถเริ่มโครงการได้ทันตุลาคม คาดช่วยพยุงยอดขายในช่วงไตรมาส 4/2568 ซึ่งเดิมมีเม็ดเงินจากโครงการ Digital Wallet เข้ามาแล้ว

อีกทั้งด้วยความที่เป็นโครงการที่ประชาชนคุ้นเคยและมีแพลตฟอร์มรองรับอยู่แล้ว จะสามารถฟื้นกำลังซื้อและสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจได้ทันที พร้อมช่วยหนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคในระยะต่อไป

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากกระแสข่าวที่จะมีการนำมาตรการ “คนละครึ่ง” มาดำเนินการอีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น คือ กลุ่มค้าปลีก (Modern Trade/Convenience Store) แนะนำ TNP, CPALL, BJC, CPAXT โดยลูกค้าจะใช้สิทธิ์ในร้านสะดวกซื้อ

กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) แนะนำ OSP, CBG, ICHI, MALEE จากการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคหมุนเวียนเร็ว

กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยอ้อม เช่น CPF,  BTG, TKN, SAPPE จากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายผ่าน Modern Trade

Back to top button