M บวกต่อ 1% โบรกชี้พ้นจุดต่ำสุด ลุยออกโปรพรีเมียมบุฟเฟ่ต์ ดันกำไร Q3 โต 2 หลัก

M บวกต่อ 1% โบรกคาดผลงานผ่านจุดต่ำสุด พร้อมออกโปรโมชั่น MK Premium Buffet และขยายสาขา Bonus Suki ขับเคลื่อนกำไร หลังกระแสตอบรับดี-ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ คาดปีนี้เปิดเพิ่ม 10 สาขา แนะนำ “ถือ” ปรับเพิ่มเป้าราคากลางปีหน้าเป็น 20 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ณ เวลา 11.49 น. อยู่ที่ระดับ 32.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.59% สูงสุดที่ระดับ 32.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 31.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 147.61 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น M ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ซึ่งราคาปิดอยู่ที่ 21.60 บาท ก่อนทยอยปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วง 14 วันทำการที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแล้วประมาณ 50% ภายในระยะเวลาอันสั้น

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าแนะนำ “เก็งกำไร” หุ้น M เนื่องจากราคาหุ้นตอบรับ MK Premium Buffet โดยตลาดมองว่าผลประกอบการของ M จะกลับมาเติบโต หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2568 และจะกลับมาเติบโตเป็นรายไตรมาสจากการทำการตลาด และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการทำโปรบุฟเฟ่ต์อย่างต่อเนื่อง แต่มองว่า Premium Buffet อาจช่วยหนุนผลประกอบการบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากจำนวนสาขาที่จัดโปรโมชั่นไม่เยอะ ขณะเดียวกันราคาหุ้น M ปรับตัวขึ้นตอบรับเชิงบวกไปพอสมควร

ขณะที่ Bonus Suki จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญให้กับ M โดยจะเข้ามาขับเคลื่อนกำไรได้ แม้ความสามารถใน การทำกำไร (มาร์จิ้น) จะลดลง จากการทำบุฟเฟ่ต์ราคาต่ำ แต่คาดว่ารายได้ต่อสาขาจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรในปี  2569

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า M ได้อัปเดตอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ครึ่งเดือนแรกของเดือนกันยายน 2568 เป็นเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2 หลัก ทำให้ในช่วงไตรมาส 3/2568 ตั้งแต่ต้นไตรมาสถึงปัจจุบันพลิกเป็นบวกราว 6-7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่ง SSSG ที่บวกมากขึ้นมาจากผลตอบรับที่ดีของ MK Buffet  ราคา 299 บาท + กุ้ง 59 บาท และมีเพิ่มเมนูเป็น 29 รายการ

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ถือ” หุ้น M แต่ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายกลางปี 2569 เป็น 20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการกำหนดราคาเชิงรุกของ M เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากแฟรนไชส์ร้านสุกี้อื่น ๆ แม้ว่าเราจะยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มร้านอาหารดังกล่าว ขณะที่การฟื้นตัวของ SSSG และกำไรปกติที่เราคาดการณ์ไว้น่าจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะปรับเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้น  แต่ยังไม่เพียงพอที่จะปรับเพิ่มคำแนะนำ เนื่องจากราคาหุ้น M ปรับเพิ่มขึ้น 70% จากระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568

นอกจากนี้ มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุม โดยคาดว่าการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจหลักเพื่อวางตำแหน่งของ M จะช่วยรักษาส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งประการแรก คือ การฟื้นตัวของ SSSG แม้จะไม่ได้น่าตื่นเต้นมากนัก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ไปแตะระดับต่ำสุดแล้ว อันเป็นผลมาจากกลยุทธ์การกำหนดราคาที่มีประสิทธิภาพของ M ซึ่งเน้นการนำเสนอบุฟเฟ่ต์ และประการที่สอง การเปิดตัวร้าน Bonus Suki เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับแรงหนุนที่ดีจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่แตกต่างจากแบรนด์ MK Suki

อีกทั้ง M  มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่ความกังวลของเราเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดร้านอาหารในประเทศนั้น คือ 1. เกิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง 2.อุปทานร้านอาหารใหม่ล้นตลาด และ 3. การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง

ด้าน SSSG ในเดือนสิงหาคม 2568 ยังทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปรับตัวลดลงจากบวก 4% ในเดือน กรกฎาคม 2568 และบวก 9.2% ในเดือนมิถุนายน 2568 ส่วนการเปิด Bonus Suki (แบรนด์คู่แข่งเชิงกลยุทธ์) มีแผนเปิดให้บริการ 10 สาขาภายในปี 2568  จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา และแผนการขยายสาขาในปี 2569 จะพิจารณาภายหลัง ซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการของ 10 สาขาแรก และทำเลจะไม่ทับซ้อน หรือแทนที่สาขา MK Suki เพราะเจาะกลุ่มลูกค้าและคอนเซ็ปต์ร้านต่างกัน

Back to top button