CK-STECON กอดคอบวกคึก! รับรัฐเร่งประมูล 6 โครงการ มูลค่ารวม 1.13 แสนล้าน

CK-STECON กอดคอบวกคึก!  รับ“พิพัฒน์” กางแผน 4 เดือน เทกระจาดประมูลด่วน 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.13 แสนล้านบาท ตั้งกรรมการร่วมกระทรวงการคลังพิจารณามาตรการค่าโดยสารรถเมล์ – รถไฟฟ้า หลัง 20 บาทตลอดสายสิ้นสุด 30 พ.ย.นี้ พร้อมเดินหน้าสางปมไฮสปีด 3 สนามบิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(2ต.ค.68) ราคาหุ้นบริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ณ 14.10 น. อยู่ที่ระดับ 8.55 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.01% ราคาต่ำสุด 8.25 บาท ราคาสูงสุด 8.360 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 116.65 ล้านบาท

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ณ 14.10 น. อยู่ที่ระดับ 15.70 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.95% ราคาต่ำสุด 15.40 บาท ราคาสูงสุด 15.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49.99ล้านบาท

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (1 ต.ค.) ได้ประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการทำงานภายใต้นโยบายรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีงานด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ ในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลได้สั่งการให้เร่งรัดการเปิดประกวดราคาโครงการที่มีความพร้อมวงเงินรวมกว่า 1.13 แสนล้านบาทดังนี้

1.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 31,358 ล้านบาท

2.มอเตอร์เวย์ สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง (M9) ระยะทาง 35.85 กม. วงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท

3.โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี) เฟสที่ 1 ช่วงพุทธมณฑลสาย 3 – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทางรวม 4.63 กม. วงเงินรวม 4,490 ล้านบาท (อยู่ระหว่างเปิดประกวดราคา) และเฟสที่ 2 จากพุทธมณฑลสาย 4 – ทล.4 (ถนนเพชรเกษม) ระยะทาง 18 กม. รวมเป็น 35 กม. กรมทางหลวงกำลังทบทวนแผนงานใหม่

4.โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา บ้านหัวหิน ต.เกาะกลาง – บ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ระยะทาง 2.2 กม. วงเงินก่อสร้างประมาณ 1,800 ล้านบาท

5.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง วงเงิน 4,841 ล้านบาท

6.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงศิริราช – ตลิ่งชัน – ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย – กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) วงเงิน 15,176.21 ล้านบาท

รวมถึงการพิจารณาเรื่องมาตรการค่าโดยสาร เพื่อลดค่าครองชีพแก่ประชาชน กรณีค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในสายสีม่วงและสายสีแดง ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 มีมติให้ใช้มติ ครม. เดิมวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่ต่ออายุมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทั้ง 2 สายต่อไปจากที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2568

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมายังกระทรวงคมนาคมว่าในระหว่าง 2 เดือนนี้ กระทรวงคมนาคมต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาว่าหลังจากวันที่ 30 พ.ย.2568 จะมีมาตรการออกมาอย่างไรต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีกำหนดให้กระทรวงคมนาคมรายงานความชัดเจนภายในวันที่ 25 พ.ย. 2568

ขณะที่นโยบายที่มีความเร่งด่วนต่อไปคือ การแก้ปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โดยจะประสานกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เชิญเอกชนผู้รับงานคือบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) มาหารือร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงคมนาคม ที่กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท เอเชียฯ ยืนยันว่าไม่สามารถยอมรับการปรับแก้ไขสัญญาได้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ จำกัด (DAOL) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากการผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วและมีความพร้อมเปิดประมูลมากที่สุด ได้แก่ โครงการมอเตอร์เวย์สาย M5 และ M9 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยเบื้องต้นประเมินว่าทุก ๆ 10,000 ล้านบาทที่ผู้รับเหมาชนะประมูล จะเพิ่ม upside ต่อราคาเป้าหมายของ CK และ STECON ราว 0.1–0.2 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ยังมีโอกาสเห็นการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีรอเสนอเข้า ครม. ราว 6 เส้นทาง มูลค่ารวมประมาณ 290,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่ออุตสาหกรรมในระยะถัดไป

DAOL ยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง “Overweight” โดยเลือก CK (ซื้อราคาเป้าหมาย 23.50 บาท) และ STECON (ซื้อราคาเป้าหมาย 10.00 บาท) เป็น Top Pick จากจุดแข็งของ backlog ที่รองรับรายได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3–5 ปีข้างหน้า พร้อมมองว่ากรณีถนนยุบหน้า รพ.วชิรพยาบาล จะมีผลกระทบจำกัด เนื่องจากบริษัทมั่นใจว่าสามารถดำเนินงานแล้วเสร็จตามแผน และค่าใช้จ่ายจะได้รับการคุ้มครองจากประกันภัย

Back to top button