
TOP ดีดบวก 1% โบรกแนะ “ซื้อ” รับอานิสงส์โรงกลั่น “เชฟรอน” ระเบิด
TOP เด้ง 1.41% บล.กรุงศรี มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น หลังมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันเอล เซกุนโด ของ “เชฟรอน” พร้อมชูหุ้น “ไทยออยล์” เด่นสุดในกลุ่ม แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ต.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 15:00 น. อยู่ที่ระดับ 36 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.41% สูงสุดที่ระดับ 36.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 340.43 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นช่วงเช้าเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ และมีแรงเข้าซื้อในช่วงซื้อขายรอบบ่ายหลังมีเหตุการณ์โรงกลั่นระเบิดจนราคาปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวก
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมัน El Segundo ของบริษัท เชฟรอน (Chevron) ในสหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเหตุการณ์ได้แน่ชัด และยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการดำเนินงานของโรงกลั่นดังกล่าว
โรงกลั่น El Segundo ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1911 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 290,000 บาร์เรลต่อวัน (KBD) ใกล้เคียงกับกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ (TOP) โดยมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันเบนซินสูงถึงร้อยละ 45 และน้ำมันดีเซลร้อยละ 41 ของกำลังการผลิตทั้งหมด
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยเชิงบวกในเชิงจิตวิทยาการลงทุนต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในระยะสั้น เนื่องจากอาจผลักดันให้ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันเบนซิน ทั้งนี้ KS ยังคงแนะนำหุ้นเด่นในกลุ่มโรงกลั่นคือ TOP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 39.50 บาท พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถูกประเมินว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในตลาดหลักทรัพย์ไทย แนะนำเก็งกำไรหุ้น TOP โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 32.00 บาทต่อหุ้น พร้อมวางแนวรับที่ 34.50 และ 33.75 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 36.00 และ 37.50 บาท และแนะนำให้ตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 33.00 บาท
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นไทยระยะสั้น โดยเฉพาะ TOP ซึ่งเป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม และคาดว่าจะได้รับแรงเก็งกำไรต่อเนื่องจากปัจจัยบวกดังกล่าว