IVL ลบ 1% หลังงบไตรมาส 3 พลิกขาดทุน เซ่นปิดซ่อมบำรุง-ไฟไหม้โรงงานอินโด

IVL ร่วง 1% หลังรายงานงบไตรมาส 3 พลิกขาดทุน 818 ล้านบาท เหตุปิดซ่อมบำรุงโรงงาน PO/MTBE ในสหรัฐฯ และไฟไหม้โรงงานในอินโดนีเซีย ทำให้รายได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ณ เวลา 15:07 น. อยู่ที่ระดับ 18 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.55% สูงสุดที่ระดับ 18.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133.42 ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น IVL ปรับตัวลดลงหลังรายงานกำไรไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิดังนี้

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมียอดขายลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงงาน PO/MTBE ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรอบทุก 5 ปี คาดว่าจะกลับมาเปิดดำเนินงานได้อีกครั้งในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมถึงผลกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงงาน Combined PET และ Fibers ในประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้รายได้รวมลดลงร้อยละ 4 จากปีก่อน และลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 3.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะเดียวกัน Adjusted EBITDA ลดลงร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 279 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสาเหตุจากความผันผวนด้านอุปสงค์และอุปทานของอุตสาหกรรม รวมถึงการปรับโครงสร้างสินทรัพย์ เช่น การขายกิจการ Wellman International ในประเทศไอร์แลนด์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอ

ทั้งนี้ ต้นทุนคงที่ของบริษัทอยู่ที่ 2.28 พันล้านเหรียญสหรัฐในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลง 130 ล้านเหรียญสหรัฐจากปีก่อน หลังเริ่มดำเนินโครงการ IVL 2.0 ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2569 จากการขายที่ดินและทรัพย์สินในออสเตรเลีย รอตเตอร์ดัม และแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างสินทรัพย์

ด้านผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ กลุ่มธุรกิจ CPET มีกำไรลดลงจากปีก่อน เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกชะลอตัวและการปิดซ่อมบำรุงตามแผน อย่างไรก็ดี บริษัทได้รับเงินประกันชดเชยรายได้บางส่วน และคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการรวมกลุ่มธุรกิจ PET ในการจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในปี 2569

กลุ่มธุรกิจ Indovinya มีกำไรลดลงจากอุปสงค์ในตลาดที่อ่อนตัว แต่ได้รับผลบวกจากการลงทุนในบริษัท EPL ที่ IVL ถือหุ้น 24.9% และผลตอบแทนจากเงินประกันชดเชย แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบ เช่น PKO ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ในทวีปอเมริกาใต้ยังมีผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินเรียลบราซิล อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Crop Solutions ยังคงมีความต้องการที่แข็งแกร่งช่วยชดเชยบางส่วน

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Fibers มีกำไรลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากส่วนต่างกำไร PSF ที่ลดลง และความต้องการในยุโรปที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในตลาด Lifestyle และ Hygiene ซึ่งได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าจากเอเชีย ขณะที่ความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลงส่งผลต่อกลุ่ม Mobility ของบริษัท

ทั้งนี้ IVL ระบุว่าปี 2568 ถือเป็นช่วงของการปรับตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยจะยังคงดำเนินโครงการบำรุงรักษาและปรับโครงสร้างการผลิตต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในปี 2569 บริษัทวางแผนเปิดเผยแผนธุรกิจระยะ 3 ปี (2569-2571) ในงาน Capital Markets Day เดือนมีนาคม 2569 ซึ่งจะเป็นการชี้แจงแนวทางดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ความยืดหยุ่นและความยั่งยืน

Back to top button