“สมคิด” เปิดงาน Money Expo 2016 ปั้นไทยเป็น Hub ดิจิตอลอาเซียน

"สมคิด" เปิดงาน Money Expo 2016 ปั้นไทยเป็น Hub ดิจิตอลอาเซียน เชื่อ Sentiment เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 16 (Money Expo 2016) ภายใต้แนวคิด “Digital Life Digital Money ชีวิตดิจิทัล การเงินดิจิทัล”ว่า ประเทศไทยหวังที่จะเป็น Hub ของดิจิตอลในภูมิภาคอาเซียนอย่างสมบูรณ์ จึงได้มีการเดินหน้าการพัฒนาด้านดิจิตอลอย่างเต็มที่

โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารผลักดันให้มีอินเตอร์เน็ตครอบคลุมในทุกพื้นที่ สร้างคลัสเตอร์ด้วยการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและภาคธุรกิจ สร้างเอสเอ็มอีและกลุ่มสตาร์ตอัพที่เน้นการใช้นวัตกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะมีการใช้โปรแกรมสมาร์ทไทยแลนด์ช่วยเหลือเอสเอ็มอี เปลี่ยนแปลงระบบซับพลายเชน และสร้างบุคคลากรเพื่อรองรับระบบดิจิตอล

ทั้งนี้ถือเป็นข่าวดีที่บริษัท หัวเหว่ย เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาคในไทย เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในไทย และทางบริษัทยังเห็นว่าไทยเป็นเกตเวย์ของอาเซียน เนื่องจากนโยบายดิจิทัลอีโคโนมี่ของรัฐบาลมีความชัดเจน โดยปีนี้จะใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท และในปีหน้าจะใช้งบประมาณอีก 5000 ล้านบาท เพื่อจะเชื่อมต่อ national gateway ในประเทศไทย จึงมั่นใจว่าไทยจะเป็นดิจิตอลฮับในภูมิภาคนี้ได้

ขณะเดียวกัน บริษัท หัวเหว่ย จะร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการพัฒนาด้านดิจิตอล ซึ่งหัวเหว่ยพร้อมเป็นพีอาร์แคมเปญให้กับไทย โดยเชื่อว่าสิ่งที่ดำเนินการนั้นจะส่งผลไปถึงประเทศสิงคโปร์อย่างแน่นอนและตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมามีบริษัทที่สนใจที่จะเข้ามาสำนักงานใหญ่ภูมิภาคในไทยแล้ว 49 ประเทศ

สำหรับบรรยากาศในงาน Money Expo คึกคักมากน่าจะสะท้อนถึงอารมณ์ของประชาชนที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจคนไทยต้องเข็มแข็งและสู้กับภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งอย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินไปและต้องมองไปข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคบ้าง

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท เอ.ที.เคียร์มีย์ หรือ A.T.Kearney ซึ่งเป็นที่ปรึกษาระดับโลกได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนระหว่างประเทศ ประจำปี 2559 โดยพบว่าประเทศไทยติดอันดับที่ 21 ของประเทศที่มีความเชื่อมั่นด้านการลงทุน และเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาไทยไม่ติด 1 ใน 25 ของการจัดอันดับดังกล่าวซึ่งเป็นการประเมินจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

ดังนั้น สะท้อนให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงการเมืองที่ผ่านมา แม้จะมีความไม่แน่นอนในอนาคตข้างหน้า แต่รัฐบาลนี้เปิดกว้างจากลงทุนจากต่างประเทศและการท่องเที่ยวเติบโตได้ดี โดยเฉพาะนโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่ชี้ให้เห็นว่าไทยจะก้าวไปในทิศทางใด และที่สำคัญ การที่ประเทศรอบบ้านเศรษฐกิจเติบโตขึ้นทุกปี จึงมองว่าไทยถือป็นช่องทางในการกระจายสู่การลงทุนเป็นประตูการลงทุนในเกตเวย์เป็นศูนย์กลางของอาเซียนได้

อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่า การเข้ามาทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีผิดพลาด มีกำลังใจมากกว่าครั้งก่อน เพราะมีคนเข้ามาช่วยทำงาน ทั้งรัฐมนตรีในทีมงานและภาคเอกชนจากทุกภารส่วนเพราะทุกคนอยากให้ไทยเดินไปข้างหน้า ผ่านการดำเนินนโยบายประชารัฐ

โดยอุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือ แรงกดดันทางการเมือง ซึ่งมี่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย แต่ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นรูปธรรมจากการที่รัฐบาลวางรากฐานไว้ และเป็นจุดวัดตามที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกไว้ว่า 2 ปีนี้จะรู้เลยว่าทิศทางประเทศจะหมู่หรือจ่า

“แม้จะมีข่าวดีแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเพราะมีแต่ข่าวเชิงลบส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนไทยฝ่อลง ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือการเมือง จีดีพีที่ปรับลดลง การส่งออกที่หดตัว ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือจะต้องมีการสื่อสารให้คนเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำ”นายสมคิด กล่าว

สำหรับ Money Expo 2016  จัดบนพื้นที่กว่า 45,000 ตารางเมตร  โดยมีธนาคาร บริษัทการเงิน (นอนแบงก์) บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และบริษัทผู้ค้าทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานกว่า 260 แห่ง เพื่อนำบริการทางการเงินและการลงทุน พร้อมด้วยแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษมานำเสนอให้กับผู้เข้าชมงานอย่างเต็มที่ ใน 10 โซน ได้แก่ ตลาดเงิน, ตลาดทุน, ประกันชีวิต/ประกันภัย, Digital Banking, Digital Economy, Fintech & Startup, รถยนต์, อสังหาริมทรัพย์, SME & Lifestyle และ Gourmet & Cuisine Shop Chim Avenue

Back to top button