ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 213 จุด รับยอดขายบ้านสหรัฐฯทะยาน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มธนาคารและราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (24 พ.ค.) ที่ 17,706.05 จุด พุ่งขึ้น 213.12 จุด หรือ +1.22%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,861.06 จุด เพิ่มขึ้น 95.28 จุด หรือ +2.00% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.06 จุด เพิ่มขึ้น 28.02 จุด หรือ +1.37%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับยอดขายบ้านใหม่ที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 16.6% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 619,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2008 ส่วนราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 321,100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่มีความตึงตัว ซึ่งส่งผลให้ค่าแรงเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมัน WTI ที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีการคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นและช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นด้วย โดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส หุ้นวีซา อิงค์ หุ้นเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล พุ่งขึ้นกว่า 1.8%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโคซอฟท์ คอร์ป และหุ้นอินเทล คอร์ป ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง, หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านพุ่งขึ้นขานรับยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นเคบี โฮม พุ่งขึ้น 7.5% หุ้นพัลทกรุ๊ป และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ต่างก็ทะยานขึ้นกว่า 3.8%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดุลการค้าเดือนเม.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย., ประมาณการจีดีพีไตรมาส 1/2559 ครั้งที่ 2, การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Back to top button