พาราสาวะถี อรชุน

ความจงรักภักดียังท่วมท้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคนไทยทั่วหัวระแหงต่างพากันไปเข้าคิวรอ เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศกันอย่างเนืองแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดวางกำลังเพื่อดูแลทั้งเรื่องการจราจรบริเวณโดยรอบที่ต้องปิดถนนถึง 27 สายและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนจำนวนมากถึง 3,000 นาย


ความจงรักภักดียังท่วมท้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคนไทยทั่วหัวระแหงต่างพากันไปเข้าคิวรอ เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศกันอย่างเนืองแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดวางกำลังเพื่อดูแลทั้งเรื่องการจราจรบริเวณโดยรอบที่ต้องปิดถนนถึง 27 สายและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนจำนวนมากถึง 3,000 นาย

แม้ในวันธรรมดาประชาชนจะลดจำนวนลงเนื่องด้วยเพราะต้องไปปฏิบัติภารกิจทำงานตามความรับผิดชอบของแต่ละคน แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยก็ยังคงทยอยเดินทางไปแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ ในส่วนของสื่อต่างชาติหลายสำนัก ก็ยังคงนำเสนอข่าวพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรที่งดงามของกษัตริย์แห่งประเทศไทย เพราะนี่คือพระราชาที่ไม่มีที่ใดในโลกเสมอเหมือน

ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หลังรัฐบาลคลอดมาตรการจำนำยุ้งฉางช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิที่มีอยู่ทั้งหมด 18 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ยังไม่เบาบางลง ทว่าปมที่ถกเถียงกันอยู่เวลานี้กลับกลายเป็นเรื่องที่มีชาวนาสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารแล้วบรรจุถุงขายกันเองและมีนักการเมืองที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าไปช่วยซื้อและนำมาช่วยขาย ถูกฝ่ายที่เขม่นมองเป็นเรื่องการสร้างภาพ ดราม่ากันหนักมาก

อย่างไรก็ตาม ข้อหาที่เคยถาโถมเข้าใส่อดีตนายกฯหญิงก่อนหน้านี้ว่าเป็นต้นเหตุให้ชาวนาฆ่าตัวตายหลายราย อันเนื่องมาจากเบิกจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้ วันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มาเจออีหรอบเดียวกัน หลัง ศุภกิจ ปั้นแปลก อายุ 43 ปี ชาวนาบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ผูกคอตาย โดยยืนยันจากคนสนิทและเพื่อนบ้านใกล้ชิด เหตุมาจากหนี้สินอันเนื่องมาจากการทำนา

แต่ปรากฏว่าโฆษกรัฐบาล สรรเสริญ แก้วกำเนิด รีบออกมาปฏิเสธทันทีทันควัน หนุ่มคนนี้เป็นช่างแอร์ไม่ใช่กระดูกสันหลังของชาติ เข้าใจว่าฐานะกระบอกเสียงของรัฐบาลก็ต้องปกป้องภาพลักษณ์ของรัฐนาวา แต่อยากให้ดูตาม้าตาเรือเสียก่อน ที่เขาเป็นหนี้สินกว่าล้านบาทจนเป็นเหตุให้ก่ออัตวินิบาตกรรมตัวเองนั้น เป็นผลมาจากการทำนาถึง 80 ไร่

จะบอกว่าเป็นการทำนาเพื่อหารายได้เสริมจากการเป็นช่างแอร์ก็คงไม่ใช่ เพราะจำนวนที่ทำมากขนาดนี้ นี่คือรายได้หลักของครอบครัว เมื่อราคาตกต่ำมีปัญหาอย่างนี้จึงเป็นเหตุให้เขาคิดสั้น แต่ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนคิดอกุศลโยนไปเป็นเรื่องอื่น ถูกต้องแล้วที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรจะเข้าไปปลอบโยนและให้ความช่วยเหลือภรรยาและลูกของผู้ตาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดการสูญเสียผู้นำย่อมเป็นความบอบช้ำที่ยากเกินเยียวยา

ความจริงโฆษกไก่อู มีบทเรียนจากหลายเหตุการณ์ของการทำหน้าที่กระบอกเสียงที่พูดแบบไม่คิด ทั้งกรณีผังล้มเจ้ากำมะลอ จนมาถึงเหตุระเบิดราชประสงค์ที่รีบโยนให้เป็นประเด็นทางการเมืองทันทีหลังเกิดเหตุ จนทุกอย่างกระจ่างชัดภายหลัง หากมีพฤติกรรมเช่นนี้ทางที่ดีควรลาออกจากราชการแล้วไปเล่นการเมืองสังกัดพรรคการเมืองบางพรรคที่ถนัดเอาดีเข้าตัวโยนชั่วให้คนอื่น น่าจะเหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยกทีเดียว

ฟัง กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดถึงประเด็นเดินหน้าประชาธิปไตยไทย ในงานประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2559 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเจ้าตัวบอกว่า ไทยยังแสวงหาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และยั่งยืนมานานกว่า 84 ปี ทำให้เกิดประชาธิปไตยไม่เต็มใบ เกิดจากประชาชนยังไม่เข้มแข็ง ไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งเกิดจากความล้มเหลวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไทย

ที่น่าสนใจมากกว่าคงเป็นเรื่องที่พูดถึง การถือครองที่ดินพบว่าที่ดินคนรวยในจำนวนร้อยละ 20 นั้น มีการถือครองที่ดินถึงร้อยละ 80 ของที่ดินในประเทศ แตกต่างจากการถือครองที่ดินของคนจนถึง 400 เท่า คนรวยที่มีที่ดินมากสุดมีที่ดิน 6 แสนไร่ เกิดขึ้นแค่หนึ่งช่วงอายุของคนคนนั้น ในขณะที่คนแก่หลายคนยังเข็นรถ เก็บขยะเพื่อเลี้ยงชีพ

เหตุที่ต้องขีดเส้นใต้ในเรื่องนี้ หนึ่งมาจากสถานะของกอบศักดิ์ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลคสช. หนึ่งคือเมื่อมองเห็นปัญหาเช่นนี้แล้วก็ควรที่จะสะท้อนภาพไปยังรัฐบาลที่เกี่ยวข้องเพื่อหาหนทางที่จะทำอย่างไรให้คนซึ่งไร้ที่ทำกินมีที่ดินเป็นของตัวเองแค่เพียงเศษเสี้ยวของอภิมหาเศรษฐีเหล่านั้น ประการสำคัญคือ ควรต้องสะกิดเตือนท่านผู้นำและชาวคณะ เจ้าสัวที่เป็นเจ้าของที่ดินมากมายมหาศาลนั้นก็เทียวไล้เทียวขื่ออยู่กับรัฐบาลชุดนี้นั่นเอง

หากยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการกับความเหลื่อมล้ำเฉพาะในเรื่องที่ดินอย่างไร มีข้อเสนอทางวิชาการจาก ดวงมณี เลาวกุล นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เคยนำเสนอภาพรวมที่ดินไทยในเวทีสมัชชาความมั่นคงทางอาหารเมื่อปี 2557 ว่า ควรผลักดันให้เกิดการจัดเก็บภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้าเพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ป้องกันปัญหาที่ดินกระจุกตัว ลดความเหลื่อมล้ำ

ภาษีที่จัดเก็บได้ดังกล่าว ด้านหนึ่งจะเป็นการสร้างรายได้สมทบแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาพื้นที่ ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบในธนาคารที่ดินให้คนจนที่ไม่มีที่ดินได้เช่าหรือเช่าซื้อ ขณะเดียวกันต้องให้การรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐและชุมชน และเข้าถึงกองทุนยุติธรรมช่วยต่อสู้คดีของคนจน ให้สามารถเข้าถึงเงินประกันตัว และช่วยเยียวยากรณีไม่ผิดได้

ขณะที่ ประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กล่าวถึงการสกัดความเหลื่อมล้ำว่า ต้องผลักดันในเรื่องที่สำคัญคือ การทำให้ชุมชนมีกรรมสิทธิ์ ทรัพยากรป่าไม้ที่ดินของชุมชน ต้องบีบให้นายทุนคายที่ดินที่อยู่ในมือจำนวนมากให้ได้ ปล่อยให้รกร้าง นำไปเก็งกำไร สู่การบังคับมีมาตรการทางภาษี ทำให้เกิดการกระจายสู่เกษตรกร

ความจริงแล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะประเด็นเรื่องทุนและที่ดินนั้น น่าจะสำคัญมากกว่าปัญหาทางมิติทางการเมืองที่คนในองคาพยพแม่น้ำ 5 สายกำลังพยายามทำอยู่ในเวลานี้เสียด้วยซ้ำ เพราะต่อให้วางกลไกเพื่อสกัดกั้นนักการเมืองอย่างไร แต่สุดท้ายความเหลื่อมล้ำระหว่างที่ดินและทุนยังปรากฏให้เห็นก็เป็นเรื่องยากที่การปฏิรูปบ้านเมืองตามความฝันของผู้นำจะประสบความสำเร็จ

Back to top button