ดันกันสนุกโมนิก้าและทีมงาน

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นระบบจะเห็นว่า การลงทุนในช่วงนี้มีหลากหลายรูปแบบให้เข้าเล่นกันอย่างไม่ยั้ง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฮฮาปาร์ตี้เป็นอย่างมากที่เห็นแมงเม่าเริงร่ากันเป็นทิวแถว หลังหุ้นหลายตัวที่เม้าท์ถึงยังคงสำแดงฤทธิเดชให้โลกรู้ต่อไปไม่มีกำหนด และเมื่อดูจากข่าวสารที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม นี่เป็นจังหวะที่ต้องเล่นต่อนะคะ


*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นระบบจะเห็นว่า การลงทุนในช่วงนี้มีหลากหลายรูปแบบให้เข้าเล่นกันอย่างไม่ยั้ง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฮฮาปาร์ตี้เป็นอย่างมากที่เห็นแมงเม่าเริงร่ากันเป็นทิวแถว หลังหุ้นหลายตัวที่เม้าท์ถึงยังคงสำแดงฤทธิเดชให้โลกรู้ต่อไปไม่มีกำหนด และเมื่อดูจากข่าวสารที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม นี่เป็นจังหวะที่ต้องเล่นต่อนะคะ

*วันนี้ถึงไม่ต้องมานั่งอธิบายการทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,522.51 จุด บวกไป 2.86 จุด ด้วยมูลค่า 4.68 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก และสัมพันธ์โดยตรงกับท่าทีการซื้อขายหุ้นในแต่ละวัน ขณะที่แมงเม่าสนใจเฉพาะหุ้นรายตัวที่เป็นเพชรน้ำเอก ซึ่งเหมาะต่อการเล่นเก็งกำไรสั้นๆ หรือสามารถลงทุนซื้อเก็บระยะกลางเท่านั้นเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงเห็นหุ้นตัวเดิมๆ ที่เล่นกันมาพักใหญ่ๆ โดนเทขายทำกำไรในช่วงสั้นๆ ต่อจากนั้นก็กลับมาไล่ราคากันระเบิดเถิดเทิง รวมทั้งหุ้นหน้าใหม่ก็อาศัยสตอรี่ใหม่ๆ เข้ามาปั่นกระแสกันอย่างสนุกสนานนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นอารมณ์เคาะขวาแบบชิวๆ ที่ไม่ได้เห็นมานานพอสมควร แถมเป็นการเปิดทางเลือกให้กับนักเล่นได้กระโจนเข้าใส่กันอีกรอบ…ฟินเลยค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ CIMBT เดินหน้าขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.62 บาท บวกไป 0.27 บาท หรือขึ้นไป 20% ด้วยมูลค่า 500 ล้านบาท พร้อมกับโดนขึ้นบัญชีซื้อขายเงินสด “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของพวกขาลุยที่ต้องไปคิดกันเอาเองว่า จะเอาอย่างไร?  หลังหุ้นเริ่มออกอาการ “เปิดสูง ปิดต่ำ” แถมยังเปิดแก๊ปค่อนข้างกว้างทิ้งไว้ เดี๊ยนเม้าท์ได้ทันทีว่า ไม่ดันต่อ ถือว่าจบรอบนะคะ

*ผิดกับในรายของ STA หากดูจากสเต็ปที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันเป็นจังหวะที่ต้อง follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก หลังกระแสสังคมพูดไปในทางเดียวกันว่า ราคายางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำไรในปี 59 ต่อเนื่องถึงปี 60 จะโตอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นก็เลยวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.70 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 750 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 5 ปี 2 เดือนครึ่งแบบนี้…ขอให้กำไรออกมาเหมือนกับที่ว่าก็แล้วกัน…อิอิอิ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงกับราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ดีขึ้น กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้หุ้น KSL กระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 5.35 บาท บวกไป 0.57 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 520 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 2 ปี 4 เดือน “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ดันกันอย่างสนุกสนาน แต่หุ้นดันมีอาการวิ่งขึ้นไปถึง 6 บาท ต่อจากนั้นเกิดการย่อตัวลงมาค่อนข้างเยอะ บอกได้ทันทีเข้าสู่เรดโซนเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ TWP พอสบช่องได้โอกาสก็วิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 6.25 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 10.60%  ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันเป็นอาการที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งครั้งนั้นก็วิ่งขึ้นมายังบริเวณนี้ ต่อจากนั้นก็รูดลงไปยืนแถว 4.60 บาท ต่อจากนั้นก็วิ่งขึ้นมาอย่างช้าๆ จนมาเห็นอีกทีก็มายืนอยู่บริเวณนี้ ครั้งนี้แหละ…ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่? วันนี้รู้กันพะยะค่ะ

*ชัดเจนที่สุดคงเป็นในรายของ KAMART ราคาหุ้นวนไปวนมาที่บริเวณ 10-14 บาทเป็นเวลา 4 เดือนครึ่ง “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ทำให้นักโหนกระแสได้มันกันอีกรอบ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.10 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่นักเล่นได้คิดอีกเช่นกันว่า รอบนี้จะวิ่งขึ้นไปทำ new high ที่บริเวณ 14.50 บาทได้อ่ะป่าว!

*เม้าท์ถึงตรงจุดนี้ก็ขอพูดถึงหุ้นที่ได้เสียกันอย่างกว้างขวางอย่างพ่อดอกมะลิ JAS เพื่อทำให้นักเล่นได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นไปอีกนิดหนึ่งว่า หุ้นที่มาด้วยเกมหุ้นแบบถูกกฎระเบียบ ก็ต้องยอมรับกันโดยดี ไม่ควรมากีดกันการเข้ามาบรรจุใน SET50 เพราะถ้าเทียบกับหุ้น CPALL ซึ่งมีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลกันอย่างโจ่งแจ้ง มันทำให้ผู้คนในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ฯ รู้สึกถึงเรื่อง 2 มาตรฐานขึ้นมาในทันที…งานนี้ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง น้องโมเลือก ถูกกฎ…แต่ไม่ถูกใจ มากกว่า ผิดกฎ…แต่ถูกใจ วันนี้ลุยพ่อดอกมะลิต่อเลยค่ะ

*ส่วนตัวที่โดนใจตลอดเวลา และสามารถเล่นรอบได้ตลอดอย่าง EA ยังคงเป็นทีเด็ดที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงเป็นระยะเมื่อเห็นทำตัวเขียวๆ ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 28.75 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 135 ล้านบาท ทำให้สงสัยว่า เที่ยวนี้จะฝ่ากระแสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 31 บาทอีกครั้งหรือเปล่า? หากเป็นดังเช่นที่คิดไว้จริงๆ จังหวะนี้ต้องรีบกระโจนเข้าใส่ทันที…ไม่เชื่อถาม “น้องอมร” สุดหล่อดูก็ได้ว่า ยังมีของดีซ่อนไว้…ขืนให้เดี๊ยนพูดแทน เขาจะหาว่าโม้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ FN ภายใต้การบริหารจัดการของคุณน้อง “เบญจ์เยี่ยม” มันเป็นเกมธุรกิจที่สุดแสนจะคลาสสิค และยากที่ใครจะลอกเลียนแบบได้ และที่เห็นในเที่ยวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่า กำไรโตขึ้นเยอะแน่ๆ หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดสูงสุดของวันที่ระดับ 7.65 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4 % ด้วยมูลค่า 135 ล้านบาท  พร้อมกับทำ new high ให้เห็นเรื่อยๆ แบบนี้…ต้องอินเทรนด์กับเขาหน่อย…จริงไหม เฮีย ค. คริ…คริ…คริ!

Back to top button