บุคคล (แฉ) แห่งปีแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

คนบัญชา อาจไม่สู้ฟ้าลิขิต แต่ในตลาดหุ้นไทย บุคคลที่โดดเด่นอยู่เบื้องหลังราคาหุ้นและกิจกรรมการซื้อขายของตลาด ไม่เคยร้างรา แต่บุคคลที่ถือว่านับนิ้วได้ผลโดดเด่นเหนือคนอื่นๆ และเป็นคนที่ถือว่าเป็น "ดาวเด่น" ตลอดปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงปรากฏตัวให้แฉกันต่อไปในฐานะผู้สร้างสตอรี่เด่นของตลาด สมควรถูกคัดสรรเพื่อจับตากัน และบันทึกเอาไว้ในฐานะคนสร้างข่าวชั้นยอดที่มีสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยได้มีชีวิตชีวา สมกับเป็นตลาดที่โดดเด่นของอาเซียน


คนบัญชา อาจไม่สู้ฟ้าลิขิต แต่ในตลาดหุ้นไทย บุคคลที่โดดเด่นอยู่เบื้องหลังราคาหุ้นและกิจกรรมการซื้อขายของตลาด ไม่เคยร้างรา แต่บุคคลที่ถือว่านับนิ้วได้ผลโดดเด่นเหนือคนอื่นๆ และเป็นคนที่ถือว่าเป็น “ดาวเด่น” ตลอดปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงปรากฏตัวให้แฉกันต่อไปในฐานะผู้สร้างสตอรี่เด่นของตลาด สมควรถูกคัดสรรเพื่อจับตากัน และบันทึกเอาไว้ในฐานะคนสร้างข่าวชั้นยอดที่มีสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยได้มีชีวิตชีวา สมกับเป็นตลาดที่โดดเด่นของอาเซียน

พื้นที่อันจำกัด ของ “แฉทุกวันฯ” จึงต้องแบ่งนำเสนอเป็น 2 วัน วันละ 5 บุคคล

——-

พิชญ์ โพธารามิก  พ่อมดที่เหนือกว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์

มีคำถามว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซีอีโอ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ  JAS  เป็นพ่อมดแห่งโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์  จะได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นแฮรี่ พอตเตอร์ หรือ ลอร์ดโวลเดอมอร์ กันแน่ รู้แค่ว่า เขาน่าจะนอนกอดตำราของ อัลเฟรด แรพพาพอร์ท เรื่องของมูลค่าผู้ถือหุ้น ดังนั้น พฤติกรรมวิศวกรรมการเงิน จึงมุ่งไปที่จุดนี้เป็นสำคัญ

ปี 2559 ไม่มีใครสร้างข่าวเรื่องราคาหุ้นได้โดดเด่นเท่าเขาผู้นี้อีกแล้ว นับจากประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900 MHz อย่างเหนือคาดหมาย แล้วทิ้งใบอนุญาตหน้าตาเฉยยอมจ่ายค่าปรับ 640 ล้านบาท จากนั้นตามมาด้วยวิศวกรรมการเงินเป็นระยะตลอดทั้งปีนับจาก จ่ายปันผล ปันผลพิเศษ แถม JAS-W3 อายุ 5 ปี  อัตราแปลงสิทธิ 1 ต่อ 1 ราคา 3.94 บาท ซื้อหุ้นคืน ราคา 5.00 บาท (เพื่อนำไปลดทุนครั้งที่ 6 ในรอบ 8 ปี และกู้เงินส่วนตัวมาซื้อทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ราคา 7.25 บาท จนกระทั่งนักลงทุนลืมไปว่ากำไรของบริษัทเท่าใดกันแน่

วิศวกรรมการเงินกับราคาหุ้นแม่-ลูก ของเสี่ยพิชญ์ ที่ “ไต่เส้นลวด” โดยไม่เคยถูกข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นความสามารถพิเศษห้ามเลียนแบบ แล้วเชื่อล่วงหน้าได้เลยว่า ปี 2560  นี้ก็น่าจะมี “ลูกเล่น” ทั้งเก่าและใหม่มาให้นักลงทุนเล่นอีก 

 

วิน วิริยประไพกิจ ที่สุดของลูกหนี้ผู้ยิ่งใหญ่

ความสามารถพิเศษที่ไม่ธรรมดาของนายวิน วิริยประไพกิจ ซึ่งเป็นคนที่ทำให้การเทกโอเวอร์โรงเหล็กเก่าคร่ำคร่าในอังกฤษเมื่อ 4 ปีก่อน  กลายเป็นหายนะ เจ๊งภายใน 3 ปี เป็นสถิติเจ๊งเร็วที่สุดในโลกวันนี้ ทำให้ดีลครั้งใหญ่สุดอันดับ 2 ของประวัติธุรกิจไทย ในการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 6.9 หมื่นล้านบาท ของ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI กับบรรดาเจ้านี้ 13 กลุ่ม จำนวนมากถึง 36 ราย บรรลุเป้าหมาย ผ่านการอนุมัติของศาลล้มละลายกลางได้ภายในเวลาแค่ 5 เดือน โดยลูกหนี้สามารถเป็นผู้บริหารแผนได้เต็มตัว แทนที่จะเป็นบริษัทบริหารแผนมืออาชีพที่เป็น “บุคคลที่สาม” ที่มีเกลื่อนโลก

เงื่อนไขของแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสาระสำคัญคือ งานนี้เสี่ยวิน แห่ง SSI มีแต้มต่อเยอะจนทำให้เกิดปรากฏการณ์ “เจ้าหนี้เสียถ่ายเดียว ลูกหนี้ได้ถ่ายเดียว” ประกอบด้วยสาระสำคัญ 2 ประการคือ 1) ลูกหนี้จะจ่ายชำระเฉพาะดอกเบี้ยนาน144 เดือน 2) ลูกหนี้จะลดทุน และเพิ่มทุนใหม่รองรับวอร์แรนต์ที่จะให้เจ้าหนี้ถือไว้แทนหุ้นสามัญที่จะไปแปลงสิทธิในเดือนที่ 144 ของปีที่ 12 ของแผน ในราคาแปลงสิทธิ 0.05 บาท ในกรณีที่ SSI สามารถฟื้นตัวกลับมาทำกำไรได้ในอนาคต

เงื่อนไขดังกล่าว ทำให้ SSI สามารถกลับมาเดินหน้าต่อได้อย่างลอยนวล เป็นการปรับโครงสร้างนี้ที่ยากจะมีใครทำได้อีกในธุรกิจไทย หรืออาจจะทั่วโลกก็ว่าได้

 

เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กับกลยุทธ์ยูโด

ตอนที่ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG  ผู้ผลิตและแปรรูปไก่-สุกร นำโดย นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ทั้งในนามส่วนตัว และในนามของนิติบุคคล บริษัท นิวสตาร์ วิคเตอร์ จำกัดเข้ามาระดมทุนในตลาดด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป เมื่อกลางปี 2558 ราคาหุ้นก็หลุดจองแล้ว ต่ำเตี้ยที่ระดับ 1.50 บาทยาวนาน เพราะผลประกอบการสิ้นงวดปี 2558 ขี้เหร่ตามคาด ขาดทุนสุทธิมากถึง  1,574.31 ล้านบาท จากยอดรายได้  17,508.07 ล้านบาท

แต่การดึงตัวอดีตพ่อมดการเงิน และ นักบริหารมืออาชีพที่ช่ำชองทั้งบุ๋นและบู๊จากภายนอก อย่างนายเชิดศักดิ์ ก่อให้เกิดผลทางบวกอย่างมากมาย ทั้งด้วย กลยุทธ์ “ยูโด” (หมายถึง เอาอ่อนชนะแข็ง) เพื่อกำหนดตำแหน่งธุรกิจให้ TFG สร้างความสามารถทางการแข่งขันอย่างยืดหยุ่น และตามด้วย ผลประกอบการนับแต่ไตรมาสแรกที่ออกมาสวยหรู ต่อมาด้วยการกำไรนิวไฮทุกไตรมาส ตลอด 9 เดือน ปี 2559 ทำให้เกิดเสียงขานรับในเรื่องราคาหุ้นในทางบวกรุนแรงเข้าสูตร Let Profit Run วิ่งขึ้นยาวนานต่อเนื่อง…ทะยานไปปิดสิ้นปีเหนือ 7.00 บาท แถมยังทำให้ TFG กลับมาเป็นหุ้นแม่เหล็กติดอันดับ MSCI small cap เอเชีย เป็นหุ้นร้อนแรงที่สุดทั้งผลประกอบการและราคาพร้อมกันในระดับหัวแถวของปี 2559

 

ธิดา แก้วบุตดา สาวน้อยหมื่นล้าน 

สาวโสดน่ารัก ลูกสาวคนเล็กตระกูล แก้วบุตตา กลายเป็นสาวน้อย 2 หมื่นล้าน จากการขายหุ้นในมือที่ถือในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD หลายครั้งหลายราคา ตลอดปี 2559 จากเดิมเมื่อต้นปีที่มีสัดส่วน 42.20% ลงมาเหลือล่าสุด 33.80%  ด้วยเหตุผลง่ายๆ “…ต้องการเพิ่มฟรีโฟลตกับหุ้นให้มากขึ้นด้วย…” ยังเป็นการขายที่ชาญฉลาดเพราะ 1) เป็นการขายแบบกระจายคนซื้อ 2) ตระกูลแก้วบุตตา ยังคงถือครองหุ้นใน SAWAD รวมแล้วเกิน 50% ทำให้อำนาจการบริหารงานยังอยู่ในกำมือต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องในสัดส่วนมากกว่า 40% ให้กับธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์

ล่าสุด SAWAD ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เป็นบริษัทโฮลดิ้งเต็มรูปแบบ ควบคู่กับการประกาศเข้าเทกโอเวอร์บริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาธร จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT ซึ่งน่าจะทำให้สาวน้อย 2 หมื่นล้านรายนี้ มีบทบาทแข็งขันมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากความมั่งมีศรีสุขที่เพิ่มขึ้น

 

จรีพร จารุกรสกุล นางสาวนำโชค

นับตั้งแต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA สาวสวยคนนี้ เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่ มาเป็น นางสาวจรีพร จารุกรสกุล  พร้อมกับก้าวออกมายืนให้เรดาร์จับตาเต็มตัวอย่างมั่นใจในตัวเอง ฐานะของ WHA ก็ยังคงเดินหน้าโดดเด่นกับกลยุทธ์  “ทุนต่อหนี้ และหนี้ต่อทุน” ได้ดีเลิศ จากการต่อยอดธุรกิจหลักเดิม คือสร้างคลังสินค้าหรือโรงงานตามความต้องการของลูกค้า มาทำนิคมอุตสาหกรรม และพลังงานหลากรูป โดยใช้เครื่องมือตลาดทุนเพื่อสร้างการเติบโต โดยเจ้าหนี้สำคัญคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงชั้นเลิศ ล่าสุด WHA สามารถชำระคืนเงินกู้ที่ใช้ในการซื้อกิจการได้หมดในสิ้นปี 2559 และ ประเมินว่าในปี 2560 จะสามารถจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานปี 2559 ได้

บทบาทที่โดดเด่น ทำให้ราคาหุ้น WHA ที่เป็นหุ้นน่าผิดหวังแห่งปี 2559 จะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2506 นี้แน่นอน

 

Back to top button