IFEC และ CHOWลูบคมตลาดทุน

ผิดหวังกันไปตามๆ กันสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ IFEC เมื่อวานนี้


ธนะชัย ณ นคร

 

ผิดหวังกันไปตามๆ กันสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ IFEC เมื่อวานนี้

IFEC ยังคงไม่มีกรรมการบริหารชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน

วันนี้ (26 ม.ค.) ก็จะมีกำหนดชะระหนี้ตั๋ว บี/อี อีก 200 ล้านบาท กับ บลจ.โซลาริส

หากวันนี้ผิดนัดอีก

และเมื่อรวมกับของเก่า มูลหนี้ค้างชำระจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท

อย่างที่รับทราบกันไปแล้ว เงื่อนไขของหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท ของ IFEC ระบุไว้ชัดเจนว่า หากมีหนี้ค้างชำระไม่ว่ากรณีใดๆ เกิน 300 ล้านบาท ก็จะทำให้หุ้นกู้นี้ถึงครบกำหนดชำระทันที

สรุปง่ายๆ เจ้าหนี้หุ้นกู้ มีสิทธิที่จะเรียกเงินคืน ไม่ต้องไปรอครบกำหนดเดือน พ.ย.60

IFEC ก็จะมีเจ้าหนี้มายืนรออยู่หน้าบ้านเพิ่มขึ้น

นี่ยังไม่รวมตั๋วบี/อี ที่จะเข้ามาครบกำหนดชำระในเดือนกุมภาพันธ์ 60 อีกหลักพันล้านบาท

คนที่รับกรรมตอนนี้ก็คือนักลงทุนรายย่อย และบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายนั่นแหละ

อย่าลืมว่า เวลาผิดนักชำระหนี้แล้ว ยังคงมีอัตราดอกเบี้ยปรับอีกด้วยนะ

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไหร่

แต่จะไม่ส่งผลดีต่อ IFEC อย่างแน่นอน

เมื่อประชุมหากรรมการเข้ามาเพิ่มไม่ได้ ก็ต้องจัดประชุมครั้งใหม่ภายใน 15 วัน หรืออยู่ประมาณอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ 60

ประเด็นของปัญหาอีกอย่าง

นั่นคือ IFEC อยู่ในระหว่างการจัดทำงบไตรมาส 4/59

และจะต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็น่าจะอยู่ประมาณกลางๆ เดือนกุมภาพันธ์

การหากรรมการยังไม่ครบ จะมีปัญหาอะไรหรือไม่

ตั๋วบี/อี ที่ครบกำหนดชำระไปแล้ว และค้างจ่าย รวมถึงหุ้นกู้ 3 พันล้านบาท ทางฝ่ายที่ทำงบ หรือรับรองงบจะมีการให้บันทึกในส่วนตรงนี้ของงบการเงินไว้อย่างไร

ส่วนหุ้นที่ขึ้น SP พักการซื้อขายอยู่ ก็ได้แต่สงสารรายย่อยเกือบ 3 หมื่นคน ที่เงินถูกขังอยู่

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ เข้าใจว่า ทางสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะต้องมีการแอ็กชั่น อะไรบางอย่างออกมา เพราะปล่อยให้เละเทะ หรือยืดเยื้อแบบนี้คงไม่ได้

ไม่แน่ใจว่ามีข้อกฎหมายใด หรือวิธีการใด ที่จะทำให้ IFEC กลับสู่ความสงบ

และคืนความสุขให้นักลงทุนรายย่อยได้บ้าง

จริงๆ แล้ว ปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มผู้ถือหุ้น (ใหญ่) ใน บจ. สำหรับตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่เรื่องใหม่

ก่อนหน้านี้ หรือย้อนหลังไปหลายๆ ปี ก็เคยมีปัญหาคล้ายกันแบบนี้มาก่อน

แต่ก็เชื่อว่า หุ้น IFEC ยังไม่น่าจะถูกปลด SP ในช่วงนี้

โดยเฉพาะที่ยังฝุ่นตลบกันอยู่

ปัญหายังแก้ไม่สะเด็ดน้ำ

หากปลด SP และให้เทรดกันได้ ก็มั่นใจว่า หุ้นร่วงติดฟลอร์แน่นอน

เพราะไม่ว่าจะขายช่วงราคาไหนก็ขาดทุน ก็เลือกขายตรงที่ขาดทุนน้อยสุดไว้ก่อน

หันมาที่หุ้น CHOW บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) กันหน่อย

จะว่าไปแล้ว CHOW ในขณะนี้ ก็ยังถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะหนี้ระยะสั้น ประเภทตั๋วบี/อี (น่าจะเกือบ 3 พันล้านบาท) เพราะกว่าจะถึงกำหนดชำระก็ประมาณเดือนมีนาคม 60

เพียงแต่หุ้นตัวนี้ที่ถูกพูดถึง เพราะพอส่องงบการเงินแล้ว ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

ไม่วาจะเป็นหนี้สินต่อทุนอยู่ระดับสูงกว่า 7.2 เท่า หรือการใช้คืนหนี้ระยะสั้นต่างๆ

ส่วนเรื่องเงินที่เอ็กซิมแบงก์อนุมัติวงเงินไว้ กว่า 3,300 ล้านบาท ทางธนาคารก็ย้ำชัดเจนว่า ให้ไปใช้ในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น

ไม่ใช่มาชำระหนี้ตั๋วบี/อี

มีข่าวว่า CHOW อาจจะมีการออกหุ้นกู้มาแทน

แต่ก็สงสัยว่า แล้วใครจะมาซื้อล่ะ หรือไม่ก็ต้องเสนอดอกเบี้ยสูงๆ พอที่จะจูงใจนั่นแหละ

CHOW หากดูงบการเงินในปี 2558 มีผลขาดทุนสุทธิ 110 ล้านบาท และปี 2559 ในช่วง 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท

ในด้านของแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/59 ไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไรทั้งธุรกิจเหล็ก และไฟฟ้า

CHOW นั้นไม่ได้มีปัญหาภายในเหมือนกับ IFEC

แต่ปัญหาน่าจะอยู่ที่การลงทุนนั้น เกินกว่าขีดความสามารถ หรือเกินตัวไปหรือไม่ จนอาจหมุนเงินไม่ทัน

ส่วน IFEC ในแง่ของธุรกิจ อย่างไฟฟ้า ก็ไม่ได้มีอะไรน่าวิตก และสามารถทำมาร์จิ้นได้ดีด้วย แต่ปัญหากับอยู่ที่ความขัดแย้งของกลุ่มผู้ถือหุ้น

นี่คือ IFEC และ CHOW ในขณะนี้       

Back to top button