MBKET ฟ้องด้วยรัก

ในที่สุด นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET...เจ้าของเสียงหัวร่อสะท้านโลกันต์…และคำขวัญ “ศรัทธา ความรัก และมุ่งมั่น”...ก็ลงนามในฐานะผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องร้องอดีตผู้บริหารของตนที่ยกขบวนย้ายไปอยู่ในที่ทำงานใหม่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 5 คนเป็นจำเลยใน 2 คดี


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ในที่สุด นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET…เจ้าของเสียงหัวร่อสะท้านโลกันต์…และคำขวัญ “ศรัทธา ความรัก และมุ่งมั่น”…ก็ลงนามในฐานะผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องร้องอดีตผู้บริหารของตนที่ยกขบวนย้ายไปอยู่ในที่ทำงานใหม่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 5 คนเป็นจำเลยใน 2 คดี

คดีแรก เป็นคดีฟ้องศาลแพ่งโดยจำเลยคือ นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และผู้บริหารสูงสุดในสายธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อยของ MBKET และปัจจุบันเป็นกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ  บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และนายภูริภัทร เขียวบริบูรณ์ อดีตผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร ซึ่งปัจจุบันเป็นพนักงานของ บล.หยวนต้าฯ ในข้อหาละเมิด

พร้อมกับมีการเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 578 ล้านบาท แบ่งออกเป็นค่าเสียหายที่ทำให้ยอดการซื้อขายของ MBKET และรายได้ค่าตอบแทนนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (รวมส่วนแบ่งตลาด) ลดน้อยลง เป็นเงิน 555.948 ล้านบาท และค่าเสียหายจากการจ่ายค่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายและผู้ชำนาญการตรวจสอบการกระทำความผิด อีก 22.20 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ยอีก 7.5 ต่อปีของเงินต้น)

ส่วนคดีหลัง ฟ้องต่อศาลแรงงาน จำเลยคือ อดีตผู้บริหารระดับสูงของ MBKET 3 คน (ที่เคยทำงานในสำนักงานใหญ่เขตปทุมวัน) ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน ประกอบด้วย น.ศ.สิทธิพน แสงพุ่ง อดีตผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจหลักทรัพย์  นายภูษิต แก้วมงคลศรี อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และนายอติ อติกุล อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายตราสารอนุพันธ์

ข้อกล่าวหาคือ บุคคลทั้งสาม รวมทั้งนายเจนวุฒิ เชิญถนอมวงศ์ (ผู้ช่วยของนายภูษิต) ได้กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระระหว่างที่ยังเป็นพนักงานของ MBKET  อาทิ 1) ส่งข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนการขายของพนักงาน และมาร์เก็ตติ้ง (IC) และรายชื่อมาร์เก็ตติ้ง : ผู้จัดการสาขา หัวหน้าทีมการตลาด และอื่นๆ ซึ่งเป็นทั้งทรัพย์สินและความลับทางการค้า ไปให้กับให้กับนางบุญพร และนายภูริภัทร (ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทคู่แข่งแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะล่วงรู้) ทางอีเมล์ เพื่อประโยชน์ของธุรกิจที่เป็นคู่แข่ง 2) เข้าถึงข้อมูลความลับเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และค่าคอมมิชชั่นของลูกค้าที่อยู่ในฐานข้อมูล โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ใช่การทำงานปกติ 3) ใช้ทรัพยากรของ MBKET ช่วยเหลือบุคคลภายนอกที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทหลักทรัพย์ เค เค เทรด จำกัด อันไม่ใช่หน้าที่ 4) ใช้ทรัพยากร MBKET ส่งอีเมล์สมัครงานและส่งข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ รวมทั้งจัดทำแผนธุรกิจในตลาดตราสารอนุพันธ์ให้บริษัทคู่แข่ง

ข้อกล่าวหาระบุว่า ผลลัพธ์ของการกระทำ คือมีการดึงพนักงานของ MBKET ไปทำงานกับ บล.หยวนต้าฯ กว่า 205 คน เป็นผู้แนะนำการลงทุน และผู้จัดการสาขา 159 คน และพนักงานที่ทำงานสนับสนุนอีก 46 คน และทั้งหมดนี้ มีการไปขึ้นทะเบียนทำงานกับ บล.หยวนต้าฯ แล้ว 88 คน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน

ตั่วเจ๊บุญพร เล่นเกมกระชาก “หัวกระทิ” ถึง 205 คน (มาร์เก็ตติ้ง และผู้จัดการสาขา 159 คน และพนักงานที่ทำงานสนับสนุนอีก 46 คน) จากบรรดา “มนุษย์ทองคำ” ใต้การดูแลเดิมที่ MBKET มีอยู่ประมาณ 560 คน …ยกกระบิเกือบครึ่งองค์กรทีเดียว

ส่วนผลพวงที่ตามมาของ “สมองไหล” แต่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะมีตัวเลขระบุว่า “ลูกค้าไหล” ตามมาด้วย เนื่องจากรายชื่อลูกค้า “ขาใหญ่” เดิมของ MBKET มีการย้ายบัญชีซื้อขายหุ้นไปอยู่กับ บล.หยวนต้าฯ แล้ว 261 คน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 3.04 พันล้านบาท

ที่สำคัญบารมีอันแก่กล้าของตั่วเจ๊บุญพร เคยทำให้ทีมบริการลูกค้ารายย่อยของ MBKET มีชื่อเสียงเลื่องลือมายาวนาน …ประจักษ์แจ้งกันมาแล้ว

เสียงหัวร่อสะท้านโลกันต์…จึงกลายเป็น เสียงกรีดร้องจากยมทูต…อย่างช่วยไม่ได้

ข้อกล่าวหาทั้งหมด ถือได้ว่าเป็นคดีความแรกของสงครามแย่งชิงมาร์เก็ตติ้งที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดบริษัทหลักทรัพย์ใหม่ หรือ การปรับโครงสร้างในบางบริษัทหลักทรัพย์ครั้งสำคัญ…

ที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ “รับน้องใหม่” ทำนอง…มีข้อกล่าวหากันไปมา แต่ไม่เคยยกระดับถึงขั้นนี้มาก่อน…อาจจะมีการยกเรื่องขึ้นกล่าวหาภายในสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จางลง …เพราะเหตุผลหลัก….ไก่เห็นตีนงู งูก็เห็นนมไก่

การรับน้องใหม่ด้วยวิธีการที่ MBKET กระทำ ด้วยความรักของเสี่ยเปี๊ยะ จึงเป็นครั้งแรก และ….ไม่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย

น้องใหม่ในอนาคต เตรียมสยองล่วงหน้าได้เลย

อิ อิ อิ

Back to top button