INTUCH หลายคนยลตามช่อง

เมื่อวานซืน ราคาหุ้นของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดตลาดมาก็ร่วงแรงทันที จากแรงขายทิ้ง ที่ระดับ 57.25 บาท แล้วร่วงต่อที่ระดับต่ำสุดของวัน ที่ 57.00 บาท ก่อนที่จะมีแรงซื้อดันกลับไปที่ราคาสูงสุดของวันคือ 58.25 บาทตอนที่ปิดตลาด ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นเป็นพิเศษ


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

เมื่อวานซืน ราคาหุ้นของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดตลาดมาก็ร่วงแรงทันที จากแรงขายทิ้ง ที่ระดับ 57.25 บาท แล้วร่วงต่อที่ระดับต่ำสุดของวัน ที่ 57.00 บาท ก่อนที่จะมีแรงซื้อดันกลับไปที่ราคาสูงสุดของวันคือ 58.25 บาทตอนที่ปิดตลาด ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นเป็นพิเศษ

ถึงวานนี้ ราคาของ INTUCH ก็ยังแกว่งตัวไหวหวั่นต่อไปอีก แม้จะมีความพยายามประคองตัวเหนือ 28.00 บาทให้ได้ แต่ก็เปราะบางเต็มทน

สาเหตุของความไหวหวั่นหรือวิตกจริต เพราะความผิดหวังในผลประกอบการ และ/หรือ การจ่ายปันผลที่ลดลง

จากการประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 ที่ INTUCH เมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม รายงานตัวเลขกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,871 ล้านบาท ลดลง 63%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,717 ล้านบาท

กำไรที่เกิดขึ้นนี้….แม้ว่าจะลดลงไปแล้ว…ได้รวมเอาผลลัพธ์จากการปรับปรุงประมาณการหนี้สินของไอทีวีในไตรมาส 2/2559 จำนวน 3,691 ล้านบาท (สุทธิจากการแบ่งปันกำไรส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม) เข้าไว้ด้วย…หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2560 จะอยู่ที่ 4,026 ล้านบาท ลดลง 29% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 8% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,119 ล้านบาท

กำไรไตรมาสสอง ทำให้งบครึ่งแรกของปีอยู่ที่ 5,990 ล้านบาท ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,174 ล้านบาท ซึ่งก็เช่นกัน….ถ้าไม่รวมการปรับปรุงประมาณการหนี้สินของไอทีวี… กำไรสุทธิจะลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

กำไรที่ลดลงมากมาย ตามมาด้วยเงินปันผลที่ลดลงด้วย โดยนายเอนก พนาอภิชน รักษาการซีอีโอ INTUCH ระบุว่า บริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 16 สิงหาคม และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน

เงินปันผลที่ลดลงเกือบครึ่งของปีก่อน มาจาก 2 เหตุคือ กำไรลดลง และนโยบายจ่ายปันผลใหม่ของ ADVANC จากเดิม 100% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น เป็น 70% ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรกปีนี้

กำไรลด ยังพอทำใจยอมรับได้ แต่ปันผลลดนี่สิ จะให้ทำใจยอมรับ…ยากสสสสส์

อดีตที่ผ่านมา INTUCH ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก และทำกำไรสุทธิได้ดีเป็นเรื่องปกติ แต่นับแต่กลุ่มเทมาเสก โฮลดิ้งส์ของรัฐบาลสิงคโปร์เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในต้นปี 2549 SHIN (ชื่อเดิม) หรือ INTUCH ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีอัตราจ่ายปันผลระดับหัวแถวมายาวนานในตลาดหุ้นไทย ทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นนอนตาหลับด้วยดีเสมอ ไม่ว่าจะผ่านสถานการณ์มาแค่ไหน… ผลตอบแทนในเงินลงทุน ไม่ว่าส่วนต่างราคาหุ้น หรือ เงินปันผล (ที่มีนโยบายปันผล 100%) ล้วนอะร้าอร่ามตลอด

แถมบางปี มีปันผลพิเศษเสียอีก…เผลอทิ้งไม่ได้เลย

จากนี้ไป INTUCH ที่เคยเป็นหุ้น “แมวอ้วน”ที่เป็นหุ้นสุดยอดแห่งความปลอดภัย….ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ..เพราะมีความเสี่ยงเจือปนมากขึ้น

สาเหตุที่สามารถนำมาอธิบาย ก็ง่ายนิดเดียว..บริษัทลูกใต้ร่มธง เริ่มเป็น “ห่านที่ไข่เป็นทองคำน้อยลง” มีรายละเอียดท้ายงบการเงินของผู้บริหาร ระบุเอาไว้ชัดเจน

  • กำไรที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ 2,886 ล้านบาท ลดลง 26% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 3,895 ล้านบาท และลดลง 7% จากไตรมาสก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 3,107 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นกว่าการเติบโตของรายได้ และการต้องรับรู้ต้นทุนค่าคลื่นและอุปกรณ์สัมปทาน ทำให้ในครึ่งปีแรก ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน ADVANC อยู่ที่ 5,992 ล้านบาท ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 7,161 ล้านบาท
  • ส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM อยู่ที่ 90 ล้านบาท ลดลง 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 243 ล้านบาท และลดลง 15% จากไตรมาสก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 106 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ารายหลักอย่าง TOT และ NBN หยุดการใช้งาน โดยครึ่งปีแรกมีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนอยู่ที่ 195 ล้านบาท ลดลง 63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีส่วนแบ่งผลกำไรอยู่ที่ 531 ล้านบาท

กำไรและรายได้ครึ่งแรกของปีที่ลดลง ผู้บริหารยอมรับว่า รายได้ในปี 2560 คาดจะลดลงประมาณ 10-12% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้ของ THCOM จะลดลงประมาณ 10-12% จากปีก่อน เพราะลูกค้าหลักในไทยยกเลิกสัญญาไป ประกอบกับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ชะลอตัว ทำให้อัตราการเช่าช่องสัญญาณลดลง

เมื่อผู้บริหารถอดใจรับสภาพ…มีหรือที่นักลงทุนจะดันทุรังถือหุ้นต่อ…ด้วยเหตุผลเพื่อความปลอดภัย

เพียงแต่ยังมีคนที่อยากมองต่างมุม…ไม่ใช่เพราะอยากเอาชนะหรืออีโก้แรง…เพราะเขาก็มีเหตุผลที่ชวนให้สวนกระแส

นักวิเคราะห์ขาเชียร์ทั้งหลายนั่นเอง…มิใช่คนอื่นไกล

เกือบทุกสำนักพูดเหมือนนัดแนะล่วงหน้าว่า…ต้องซื้อ โดยให้เป้าราคาเกิน 60.00 บาท…มีมุมมองว่า INTUCH เป็นที่พักเงินที่ให้ผลตอบแทนดี และมีสภาพคล่องเด่น

ที่สำคัญกำไรที่ลดลง ถือว่า “ดีเกินคาด” เพราะยังประเมินว่า กำไรปกติปี 2560 ที่จะหดตัว 5% จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2561 ที่ระดับ 12% จากกำไรของ ADVANC ที่จะเริ่มจากแนวโน้มการแข่งขันที่ลดลงกว่าคาด และในกรณี THCOM ที่ได้รวมเอาการรับรู้ผลของการสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไปแล้ว

การ “มองต่างมุม” อย่างนี้ ทำให้เกิดภาวะ “ลางเนื้อ ขอชอบลางยา” ขึ้นมาทันที

ปัญหาอยู่ที่ว่า จะเชื่อใครดี(หว่า)…มากกว่า

อิ อิ อิ

Back to top button