หุ้น กับ ชาร์ลอตสวิลส์

รัฐบาลเกาหลีเหนือ และนักลงทุนในตลาดเก็งกำไรทั่วโลก มีเหตุให้ถอนหายใจเฮือกใหญ่นับแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อมีข่าวเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลอตสวิลส์ รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งมีคนเสียชีวิตและทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้ง


พลวัตปี 2017 : วิษณุ โชลิตกุล

รัฐบาลเกาหลีเหนือ และนักลงทุนในตลาดเก็งกำไรทั่วโลก มีเหตุให้ถอนหายใจเฮือกใหญ่นับแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อมีข่าวเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลอตสวิลส์ รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งมีคนเสียชีวิตและทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้ง

แม้จะไม่ชัดเจนว่าเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าว (มีผู้ขับรถชนฝูงชนที่เดินขบวนประท้วงการรวมตัวของกลุ่มสนับสนุนผู้ที่มีผิวขาวโดยเหตุปะทะที่เกิดขึ้นอีกจุดหนึ่งในเมืองดังกล่าวก็ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกถึง 15 รายในวันเดียวกัน) เป็นการกระทำเสมือนกับการก่อการร้ายภายในประเทศสหรัฐฯจริงตามที่มีสื่อในสหรัฐฯออกมาระบุกันมากน้อยแค่ไหน แต่พฤติกรรม “อขันติธรรม” เช่นนี้ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ทางสังคมในสหรัฐฯมากกว่าของโลก

ความเคลื่อนไหวกลุ่มที่นิยมความเกลียดชัง เช่นกลุ่มคนที่สนับสนุนผู้ที่มีผิวขาวซึ่งมีนัยของการเหยียดสีผิวที่ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับสังคมอเมริกัน แต่การใช้ความรุนแรงกับคนกลุ่มนี้ก็เกินกว่าที่กฎหมายจะยอมรับได้เช่นกัน ประเด็นปัญหาจึงย้ายจากเรื่องของเหตุการณ์ไปเป็น “ท่าที” ในการรับมือกับเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า นิสัยเป็นคนที่ขวานผ่าซากกับทุกๆเรื่องของทรัมป์ ให้ความเห็นผิดที่ผิดเวลา กล่าวหาการก่อความรุนแรง แต่ไม่ยอมกล่าวประณามคนอยู่เบื้องหลังกลุ่มสนับสนุนคนขาวที่ขาดขันติธรรมทางเชื้อชาติ กำลังสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา

ปัญหาเฉพาะหน้าภายในเรื่องเมืองชาร์ลอตสวิลส์ รัฐเวอร์จิเนีย ทำให้ทรัมป์ต้องรับมือกับแรงกดดันการเมืองภายในมากขึ้น มีผลให้ความหมกมุ่นกับปัญหาเกาหลีเหนือถูกลดระดับลงโดยปริยาย เป็นปัจจัยบวกที่นักลงทุนในตลาดเก็งกำไรพากันถอนใจเฮือกใหญ่ แม้จะรู้ดีว่า ไม่ใช่เรื่องยั่งยืนถาวร เพาะอาจจะเป็นแค่การซื้อเวลาออกไปอีกเล็กน้อย

ล่าสุดของสถานการณ์เกาหลีเหนือ มีปัจจัยบวกหลายด้านที่ทำให้เชื่อกันว่าจะไม่บานปลายเป็นสงครามใหญ่ดังนี้คือ

-ท่าทีของ พลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ที่ได้พบปะกับนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้วานนี้ ดูอ่อนลงเมื่อระบุว่า ความพยายามทางการทูต และการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ จะทำให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในขณะนี้ ซึ่งจะช่วยให้มีการหลีกเลี่ยงการเกิดสงคราม และเสริมว่าการกล่าวถึงความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ อาจเป็นคำกล่าวที่เกินความจริง

-นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ และนายจิม แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี และไม่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ หรือเร่งกระบวนการรวมชาติเกาหลี

– รัฐบาลจีนออกคำสั่งวานนี้ ให้มีการปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการห้ามนำเข้าถ่านหิน เหล็ก แร่เหล็ก ตะกั่ว และอาหารทะเล  มุ่งเป้าจะตัดรายได้จากการส่งออกของเกาหลีเหนือลง 1 ใน 3 จากระดับ 3 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี เพื่อตอบโต้ต่อการที่เกาหลีเหนือทำการทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) 2 ครั้งในเดือนที่แล้ว ภายใต้เงื่อนไขว่า สินค้าของเกาหลีเหนือซึ่งอยู่ที่ท่าเรือแล้ว จะยังคงสามารถนำเข้าสู่จีนได้

-นายซอง ยัง มู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เผยมีความเป็นไปได้ต่ำมากที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธพุ่งเป้าที่น่านน้ำนอกชายฝั่งของเกาะกวม ซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก

-นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ต่อสายตรงพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์วานนี้ โดยเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ผ่านช่องทางการเจรจา โดยให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น และเกิดความเห็นพ้องกันว่า เกาหลีเหนือควรยุติพฤตกรรมที่ยั่วยุ โดยที่จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ผลพวงจากสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงชั่วขณะ ทำให้วานนี้ นอกจากตลาดหุ้นในเอเชีย(ยกเว้นไทยที่ปิดทำการ 3 วัน) จะเดินหน้าบวก(ยกเว้นญี่ปุ่น) กันเกือบทั่วหน้า ค่าเงินสกุลดอลลาร์ก็กลับแข็งค่าอีก พุ่งขึ้นเหนือระดับ 109 เยนในวันนี้ หลังจากทรุดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงในคาบสมุทรเกาหลี ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดอลลาร์ และเทขายเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

เหลือคงค้างเรื่องเดียวอยู่ที่ นักลงทุนยังเป็นปริศนาว่า หากวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดบวกตอนเช้าจากข่าวดีดังกล่าว จะเป็นสัญญาณบวกยั่งยืน หรือแค่ “แมวตายเด้ง” อีกครั้ง

คำตอบคงไม่ได้อยู่ที่เมืองชาร์ลอตสวิลส์ แต่อยู่ที่ใจนักลงทุนมากกว่า

Back to top button