คุณค่าบริษัท : TFG ยังไปได้ดี

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG จะได้รับผลดีจากการส่งออกไก่ที่มากขึ้น โดยปริมาณการส่งออกไก่จะเพิ่มจากประมาณ 24,000 ตัน ในปี 2559 เป็น 32,000 ตัน ในปี 2560 เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกเพิ่มส่วนใหญ่จะไปที่ยุโรป และญี่ปุ่น โดยมีโอกาสจากที่บราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ของโลกประสบปัญหาด้านความโปร่งใสของคุณภาพผลิตภัณฑ์ไก่ ทำให้การแข่งขันในตลาดโลกผ่อนคลาย


เนื่องจากการลดลงของอุปทาน รวมถึงการบริโภคภายในประเทศจีนมีมากขึ้น ทำให้เหลือส่งออกไปตลาดโลกน้อยลง ขณะที่ปริมาณการขายในประเทศนั้นอยู่ในภาวะที่ดีเช่นกัน คาดว่า ราคาไก่จะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 39-40 บาทต่อกก. ดีขึ้นจาก 37-38 บาทต่อกก. ในไตรมาส 2 ปี 60 และ 36-37 บาทต่อกก. ในไตรมาส 1 ปี 60

ขณะที่ราคาหมูมีการฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงภาวะอุปทานล้นตลาดที่ 55-57 บาทต่อกก. มาอยู่ที่ 58-60 บาทต่อกก. เนื่องจากราคาวัตถุดิบยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ราคาข้าวโพดอยู่ที่ประมาณ 8 บาทต่อกก. และราคากากถั่วเหลืองที่ 15 บาทต่อกก. TFG มีการตกลงซื้อวัตถุดิบที่ราคาถูกล่วงหน้าไปถึงปลายปี คาดจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น 2560 อยู่ในระดับ 14.5% สูงกว่า 12.7% ในปี 2559

นอกจากนี้คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 60 จะเป็นช่วงที่ได้ผลประโยชน์ทางฤดูกาล โดยจะมีคำสั่งซื้อมากขึ้นในไตรมาส 3 ปี 60 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่มากขึ้นตามพฤติกรรมการบริโภคนอกบ้านหลังพ้นหน้าหนาว รวมถึงจะมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อเตรียมการก่อนช่วงคริสต์มาส (pre-Christmas order) ประกอบกับความต้องการหลังพ้นช่วงกินเจหลังเดือนตุลาคม

ที่สำคัญ TFG มีแผนจะเพิ่มกำลังโรงเชือดไก่อีก 50,000 ตัวต่อวัน เป็น 550,000 ตัวต่อวัน (เพิ่มขึ้น10%) รวมถึงเพิ่มกำลังโรงเชือดสุกรอีก 800 ตัวต่อวัน (เพิ่ม 2 เท่า) ที่จังหวัดชลบุรีในไตรมาส 3 ปี 60 โดยในส่วนของสุกร TFG วางแผนเพิ่มสัดส่วนมูลค่าสุกรชำแหละ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าสุกรเป็น จากสัดส่วน 7% ในปี 2559 มาเป็น 19-20% ในปี 2560 จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่า TFG จะสามารถมีกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 2.2 พันล้านบาทได้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดกำไรปี 2561 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะ TFG อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานไก่ปรุงสุก (Further factory) เพื่อป้อนตลาดส่งออกภายในไตรมาส 2 ปี 61 ด้วยกำลังผลิตประมาณ 25,000 ตันต่อปี ซึ่งการผลิตไก่ปรุงสุกจะมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าการผลิตเพียงไก่สด อีกทั้งตลาดไก่ปรุงสุกยังมีขนาดตลาดใหญ่กว่าตลาดไก่สดประมาณ 2 เท่า คาดว่า TFG จะมีรายได้ปี 2561 ที่ 29 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2560 และกำไรประมาณ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%

ดังนั้น นักวิเคราะห์ บล. เคทีบี ประเมินมูลค่า โดยอิง PER ที่ 15 เท่า สะท้อนธุรกิจที่ยังไปได้ดี ได้ราคาเหมาะสมที่ 6.6 บาท ณ ราคาปัจจุบัน มี upside อยู่ 15% แนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท นิวสตาร์ วิคเตอร์ จำกัด 1,592,166,596 หุ้น 31.17%
  2. นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ 984,915,132 หุ้น 19.28%
  3. NEWSAGA LIMITED 970,000,000 หุ้น 18.99%
  4. Star Capital (H.K.) Limited 400,000,000 หุ้น 7.83%
  5. นายนัฐวุฒิ เตียวสมบูรณ์กิจ 333,957,371 หุ้น 6.54%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการ
  2. นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานกรรมการบริหาร
  3. นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ กรรมการ
  4. นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการ
  5. นายประสิทธิ์ วสุภัทร กรรมการ

Back to top button