หัวโค้งการเมืองจีน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปิดประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 19 วันพุธนี้ ข่าวแทบทุกกระแสชี้ว่าจะเป็นการกระชับอำนาจให้อยู่ในมือสี่จิ้นผิงอย่างเบ็ดเสร็จ


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปิดประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 19 วันพุธนี้ ข่าวแทบทุกกระแสชี้ว่าจะเป็นการกระชับอำนาจให้อยู่ในมือสี่จิ้นผิงอย่างเบ็ดเสร็จ

เพราะสมัชชาครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญจำนวนมาก กรรมการกรมการเมือง 11 จาก 25 คนจะเกษียณอายุ ในจำนวนนี้เป็นกรรมการประจำ 5 จาก 7 คน กรรมการกลางพรรคก็จะเปลี่ยนถึง 70% เปลี่ยนมากที่สุดตั้งแต่ปี 1969 ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ผู้แทนฝ่ายทหารเปลี่ยนหน้าถึง 90% เห็นชัดว่าคนรุ่นใหม่ที่เป็นฐานให้สี่จิ้นผิงจะครองอำนาจยกแผง ทั้งในพรรคและกองทัพ

ยิ่งกว่านั้น ยังจะมีการแก้ไขธรรมนูญพรรค บัญญัติความคิดทฤษฎีสี่จิ้นผิง ซึ่งจะทำให้เขามีสถานะเทียบเท่าเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง ซ้ำยังคาดกันว่า อาจแก้ไขธรรมนูญให้เฮียสี่อยู่ต่อสมัยที่ 3

สี่จิ้นผิงกำลังจะเป็นผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดนับจากประธานเหมา เพราะยุคเติ้งเสี่ยวผิง ว่าที่จริงก็ยังมีหลายกลุ่มหลายก๊กในพรรค แต่สามัคคีกันโค่นแก๊งสี่คน และสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจของเติ้งเป็นธงนำ

มองโลกแง่ดี แบบนักนิยมจีน ก็คงเห็นว่าจีนจะยิ่งใหญ่ภายใต้อุดมการณ์สี่จิ้นผิง “ไชน่าดรีม” พร้อมกระจายความมั่งคั่ง ลดเหลื่อมล้ำ ปราบการทุจริตคอร์รัปชั่นของเหล่าแกนนำและสมาชิกพรรคอย่างไม่ไว้หน้า

แต่มองให้ลึกในความเป็นจริง ช่วงเวลาต่อจากนี้คือหัวเลี้ยวหัวต่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะต้องปรับอุดมการณ์ ความคิด ทฤษฎี โครงสร้าง ให้สอดรับกับระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ที่สร้างทั้งความร่ำรวยและเหลื่อมล้ำ เพื่อที่จะคงการปกครองระบอบพรรคเดียวไว้ให้ได้

พรรคคอมมิวนิสต์จีนโยนทฤษฎีสังคมนิยมทิ้งหลังปฏิวัติวัฒนธรรม ที่ประเทศเกือบล่มจมและฆ่าฟันกันอย่างโหดร้าย แต่การพัฒนาทุนนิยมอย่างก้าวกระโดดก็นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำ ระบอบพรรคเดียวทำให้เกิดทุจริตกว้างขวาง ในช่วงแรก ประชาชนยังรับได้เพราะเศรษฐกิจโตเร็ว และเพิ่งลืมตาอ้าปากจากยุคปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ต่อมาก็ยากจะปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์

พรรคคอมมิวนิสต์จีนยุคสี่จิ้นผิงจึงปรับตัว ได้รับความนิยมจากการสอบสวนจับกุมข้าราชการล้านกว่าคน ประกาศนโยบายสี่ถ้วนทั่ว รวมถึง “นิติรัฐ” (ซึ่งไม่เคยมีในนโยบายพรรคคอมมิวนิสต์) และเข้มงวดวินัยพรรค (ขนาดประชุมสมัชชาใหญ่ปีนี้ ก็งดเสิร์ฟกุ้งและปลิงทะเลเพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าผลาญงบ)

พูดง่ายๆ พรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคสี่จิ้นผิง พยายามกลับมาเข้มงวดอุดมการณ์ ปรับตัวให้ได้รับความนิยม หลังอุดมคติเสื่อมโทรมในยุคกระตุ้นทุนนิยม

พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เหลืออุดมการณ์ สาเหตุหนึ่งที่จีนประสบความสำเร็จ ก็เพราะความเข้มแข็งเป็นปึกแผ่นของพรรค ที่สืบทอดอุดมการณ์จากยุคปฏิวัติ เพียงแต่นานเข้าก็ถูกสนิมกัดกร่อน สี่จิ้นผิงก้าวขึ้นมาผลัดรุ่น ด้วยภาพผู้นำอุดมการณ์รุ่นใหม่ มีพ่อเป็นคนรุ่นปฏิวัติ ถูกจับถูกทรมานยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ถูกส่งไปใช้แรงงานชนบทหลายปี

มองมุมนี้คือพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังสร้างชุดแกนนำใหม่ ชุดอุดมการณ์ความคิดใหม่ เพื่อตอบโจทย์สังคมที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ในความพยายามรักษาระบอบพรรคเดียว

ความเป็นปึกแผ่นใน 5 ปีข้างหน้าคงไม่มีข้อกังขา แต่ยุคต่อไปน่าจะกังวลกันอยู่ ถึงได้มีกระแสต่ออายุสมัยที่สาม เพื่อใช้เวลาปลูกฝังปรับโครงสร้าง เพราะหมดจากสี่จิ้นผิง ก็หมดยุคผู้นำอุดมการณ์ เข้าสู่ยุคคนรุ่นใหม่ที่เติบโตในสังคมทุนนิยมแข่งขันกันร่ำรวย

Back to top button