KSL หมดเสน่ห์(ชั่วคราว)

ประเด็นหลักของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีไม่กี่เรื่องที่ต้องคิด จึงไม่ควรเอาเรื่องอื่นๆ มาคิดให้ปวดหัว เพราะจะทำให้โพซิชั่นของการลงทุนผิดเพี้ยนไปจากที่วางแผนไว้


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณอมรรัตน์ รามคำแหง 39 กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น KSL หรือ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ไม่ค่อยมีใครสนใจเหลียวมองเหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งที่พื้นฐานของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงแบบสุดกู่ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นตัวนี้ด้วย เพราะตัวดิฉันเริ่มงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ เลยต้องการคำชี้แนะที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนในอนาคตค่ะ

 

ประเด็นหลักของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีไม่กี่เรื่องที่ต้องคิด จึงไม่ควรเอาเรื่องอื่นๆ มาคิดให้ปวดหัว เพราะจะทำให้โพซิชั่นของการลงทุนผิดเพี้ยนไปจากที่วางแผนไว้

เนื่องจากองค์ประกอบหลักที่นักลงทุนต้องมองมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันคือ

  1. ธุรกิจของบริษัทอยู่ในทิศทางไหน
  2. ผลการดำเนินงาน “กำไร” หรือ “ขาดทุน”
  3. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ขนาดไหน

ทั้งหมดเป็นตัวชี้ขาดว่า หุ้นควรอยู่ในระดับไหน? รวมทั้งเป็นหุ้นที่น่าลงทุนหรือเปล่า?

เมื่อนำองค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนมาใช้พิจารณาหุ้น KSL หรือ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ผลปรากฏว่า ยังไม่ใช่เวลาเข้าลงทุนแบบสุดตัว แต่เป็นลักษณะของการเล่นเป็นรอบมากกว่า ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจไม่ได้อยู่ในช่วงเติบโตต่อเนื่อง และตัวเลขกำไรก็ไม่โดดเด่นเหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ตัวผู้บริหารก็ไม่ได้แสดงบทบาทอะไรมากมาย ส่งผลให้สถานการณ์ของหุ้นดูหนืดๆ ไปครับ

เมื่อถอดรหัสดังกล่าวด้วยการนำงบการเงินมาเปรียบเทียบ เพื่อคำนวณราคาเป้าหมายแบบง่ายๆ โดยตั้งสมมุติฐานกำไรต่อหุ้นปี 60 อยู่ที่ระดับ 0.32 บาท(9 เดือนอยู่ที่ 0.26 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 59 อยู่ที่ 0.32 บาทต่อหุ้น) พร้อมกับใช้ค่า P/E 18 เท่า(พีอีของตลาด) ก็จะได้ราคาเป้าหมายสูงถึง 5.76 บาท หรือจะปรับลงมาซื้อขายบน P/E 15 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท อาจารย์ถึงอยากให้นักลงทุนลองไปตั้งสมการกันเอาเองว่า ต้องการค่าตัวแปรเป็นแบบไหน?

ทั้งนี้อย่าลืมพิจารณาความเสี่ยงของการลงทุนในเที่ยวนี้ไว้ด้วยว่า ราคาน้ำตาลจะยืนราคาสูงได้ตลอดทั้งปี 61 หรือเปล่า?

หากยืนระยะได้ ทุกอย่างก็แฮปปี้..หากยืนระยะไม่ได้ ก็คงเสียศูนย์ไปพอสมควร

อาจารย์ถึงพุดได้ทันทีว่า วันนี้ต้องเลือกเอาสักทาง หรือจะให้ดีก็เล่นสั้นๆ ตามกระแส พร้อมกับตั้งจุดตัดขายขาดทุนไว้ด้วย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดในจังหวะนี้นะครับ

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 22 ธ.ค.60

Back to top button