Facebook กับเทรนด์ใหม่

จากตัวเลขจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านราย และประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้เกือบ 40 ล้านราย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook หรือ www.facebook.com เป็นโซเชียลมีเดียที่มีคนทั่วโลกใช้งานมากสุด ด้วยตัวเลขผู้ใช้จำนวนมากเช่นนี้ ทำให้แบรนด์สินค้าและธุรกิจบริการร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างมีความจำเป็นต้องทำการตลาดผ่านสื่อ Facebook อย่างต่อเนื่อง และนั่นจึงทำให้ Facebook มีเพจของธุรกิจขนาดเล็กขนาดใหญ่รวมกว่า 50 ล้านราย


พลวัตปี 2017 : สุภชัย ปกป้อง (แทน)

จากตัวเลขจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านราย และประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้เกือบ 40 ล้านราย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook หรือ www.facebook.com เป็นโซเชียลมีเดียที่มีคนทั่วโลกใช้งานมากสุด ด้วยตัวเลขผู้ใช้จำนวนมากเช่นนี้ ทำให้แบรนด์สินค้าและธุรกิจบริการร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างมีความจำเป็นต้องทำการตลาดผ่านสื่อ Facebook อย่างต่อเนื่อง และนั่นจึงทำให้ Facebook มีเพจของธุรกิจขนาดเล็กขนาดใหญ่รวมกว่า 50 ล้านราย

ช่วงเวลาเดียวกันผู้พัฒนาระบบของ Facebook มีการปรับเปลี่ยน Algorithm หรือพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สมาชิกใช้งาน Facebook อย่างเพลิดเพลินและไม่รำคาญใจ เนื่องจากปัจจุบันมีการแชร์ Content มากมายนับไม่ถ้วนบน Facebook ทั้งที่เกิดจากสมาชิกนำมาแชร์เอง และเกิดจากเพจต่างๆ ที่นำมาแชร์แต่ละวัน

ทำให้ Facebook จำเป็นที่ต้องบริหารจัดการการนำเสนอ Content หรือเนื้อหาต่างๆ ให้สมาชิกอย่างสมเหตุสมผล ด้วยการจัดระเบียบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก เลือกนำเสนอเนื้อหาที่สมาชิกแสดงความสนใจและจำกัดการเข้าถึงสมาชิกจากแบรนด์เพจด้วยเช่นกัน

นั่นจึงเป็นเหตุให้บริษัททั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการจัด Algorithm ของ Facebook แต่สุดท้ายไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก นอกเหนือไปจากต้องลงทุนซื้อโฆษณา เพื่อให้โพสต์เกิดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากสุด

จากข้อมูลของ socialmediatoday.com ผ่านทาง Brand Buffet มีการวิเคราะห์ถึงบทบาทของ Facebook กับการปรับเปลี่ยนบริบทช่วงปี 2561 เพื่อตอบโจทย์กับผู้ใช้บริการและสร้างความหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น

  • สื่อโลกเสมือน (Virtual Reality : VR) โดย Facebook ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาหลายปี เริ่มด้วยการซื้อกิจการบริษัท Oculus เจ้าของแว่น VR แบรนด์ Oculus Rift แต่ดันแว่นนี้ให้แจ้งเกิดไม่ได้สักที เพราะติดที่ราคาสูงถึงประมาณ 20,000 บาท ทำให้ Facebook ต้องหั่นราคาลงมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าปีนี้จะมีการออกรุ่นเล็ก “Oculus Go” หาก Oculus Go แจ้งเกิดสำเร็จ ปี 2018 น่าจะได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เกี่ยวกับ VR จากเดิมมีแต่ภาพหรือคลิป 360 องศา และทดลองรายงานข่าวผ่านตัวอวาตาร์ 3 มิติ เป็นต้น
  • สื่อภาพซ้อน (Augmented Reality :AR) จากที่ให้ความสำคัญ VR มาหลายปี ปีนี้ Facebook จะมาเน้น AR ไปด้วยควบคู่กัน เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคอื่นๆ เช่น Google มีระบบ Tango สำหรับซ้อนภาพวัตถุลงบนสถานที่จริงแบบเนียนสนิท แถมมี AR sticker ออกมาให้ซ้อนสติกเกอร์สามมิติลงบนฉากจริงเป็นต้น
  • แอปพลิเคชันแชท Messenger ในการค้าขายแบบ e-commerce ที่ผ่านมามีการทำเงินจากโฆษณาได้ news feed ได้มากมาย แต่กลับยากจะทำเงินได้ ในแอปพลิเคชันแชทอย่าง Messenger จึงพยายามพัฒนา chat bot โดยทั้งผลิตเองและทำตลาดกลางให้มีการจำหน่ายขาย bot กัน คล้ายกับการขายแอปพลิเคชันใน App Store ของ iOS หรือ Play store ของ Android ปีนี้จึงเห็นการพยายามผลักดันให้ธุรกิจต่างๆ ใช้ bot มาตอบอินบ๊อกซ์แทนมนุษย์ โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ที่อาจใช้แทนคอลเซ็นเตอร์
  • การวัดผลที่ตอบโจทย์มากขึ้น จากเดิม Facebook ให้ความสำคัญเพียงเฉพาะ ยอดไลค์-ยอดแชร์-ยอดคอมเมนต์ แต่ปีนี้จะได้เห็นการผลักดันการวัดผลที่ลึก และสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า อาทิ เครื่องวัดที่ช่วยให้รู้ว่าเมื่อคนที่มาเห็นโฆษณทาง Facebook แล้วมีการเข้าร้านค้าจริงมากน้อยแค่ไหน (Store Visits) โดยใช้เทคโนโลยี beacon ช่วยตามติด
  • ดันฟีเจอร์ใหม่ๆ จากปีที่ผ่านมา Facebook ให้ความสำคัญสื่อวิดีโอมากขึ้น ทั้งคลิปและการไลฟ์ ดูได้จากโพสต์ที่เป็นคลิปหรือไลฟ์ มักจะได้โชว์ใน news feed หรือการแจ้งเตือนมากกว่าโพสต์ข้อความรูปแบบเดิม

ต้องยอมรับเลยว่า Facebook ถือเป็นเครื่องมือทำการตลาดที่ทรงพลังมากและมีแนวโน้มแรงต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของกลุ่มธุรกิจต่างๆ จะหยิบฉวยมาใช้ประโยชน์ จากความเปลี่ยนแปลงของ Facebook แต่จะได้มากหรือน้อยเป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบกันเอาเอง..!!

Back to top button