4 หุ้นจิ๋ว กำไรแจ๋ว!

การทยอยประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมานั้น ล้วนถดถอยตามสถานการณ์กดดันของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19


เส้นทางนักลงทุน

สืบเนื่องจากช่วงประกาศงบฯ ไตรมาส 2/2563 รวมถึงครึ่งปีแรก ของปี 2563 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีการทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง และจะสิ้นสุดภายในวันที่ 15 ส.ค. 2563 และอาจมีส่วนที่ล่าช้าได้ถึงวันที่ 17 ส.ค. 2563

การทยอยประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมานั้น ล้วนถดถอยตามสถานการณ์กดดันของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะทำให้หลายประเทศต้องปิดล็อกดาวน์ รวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้ดำเนินธุรกิจไม่ได้เพราะหลายธุรกิจต้องหยุดการผลิตชั่วคราวในช่วงไตรมาส 2/2563

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัททำได้เพียงหาทางเพื่อให้อยู่รอดเพื่อผ่านวิกฤติไปให้ได้เท่านั้น…

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการประกาศงบการเงินในช่วงไตรมาส 2/2563 รวมถึงครึ่งแรกปี 2563 ออกมา ก็เกิดมีเซอร์ไพรส์ในหลาย ๆ บริษัทด้วยกัน…ตามคาด และเหนือคาด กันไป !!!

โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) “จิ๋ว แต่กลับทำกำไรแจ๋ว”

ดังนั้นทางข่าวหุ้นธุรกิจจึงขอหยิบยกหุ้นขนาดเล็กพริกขี้หนู อย่างหุ้นกลุ่ม เอ็ม เอ ไอ มานำเสนอให้นักลงทุนดูเป็นตัวอย่างก่อนงบการเงินจะออกมากันครบถ้วน

สำหรับตัวอย่างจากการรวบรวมมาพบว่า หุ้นขนาดเล็กที่สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตทั้งช่วงไตรมาส 2 และงวดหกเดือนแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ประกาศออกมาแล้วมีหุ้น 4 ตัวที่ทำได้ ได้แก่ TPLAS, TNP, TACC และ INSET เป็นต้น (นี่เป็นการรวมข้อมูลจากเริ่มประกาศจนถึง ณ วันที่ 7 ส.ค. 2563 เท่านั้น)

บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พบว่า บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.07% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 4.64 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทรายงานมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 15.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.27% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 15.23 ล้านบาท

ทั้งนี้ด้วยกำไรที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายที่ลดลง เนื่องจากราคาวัตถุดิบเฉลี่ย (เม็ดพลาสติก) ปรับตัวลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ปรับตัวลดลง จึงส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พบว่า บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 28.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 20.91 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทรายงานมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 59.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.12% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 36.83 ล้านบาท

ทั้งนี้กำไรเพิ่มขึ้นเกิดจากยอดขายเพิ่ม เนื่องจากภาครัฐได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังผู้มีรายได้น้อยซึ่งส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวยอดขายของสาขาเดิมในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ จากการซื้อสินค้าล่วงหน้าของผู้บริโภคเนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และรวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากการขยายสาขาของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ด้วยอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.03 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ส่วนวันที่จ่ายปันผลวันที่ 4 กันยายน 2563

บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พบว่า บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 47.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 42.58 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทรายงานมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 90.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.92% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 76.03 ล้านบาท

ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในส่วนสินค้าที่มีกำไรสูงจากการพัฒนาต้นทุนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพราะอย่างไรก็ตามยังคงมียอดขายเติบโตจาก กลุ่มเครื่องดื่ม non coffee ในกลุ่ม All Cafe ที่มากขึ้นตามจำนวนสาขาและเพิ่มเมนูใหม่ตามฤดูกาล รวมถึงกลุ่มสินค้าที่ร่วมพัฒนากับ B2B

นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ด้วยอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.13 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 19 สิงหาคม 2563  ส่วนวันที่จ่ายปันผลวันที่ 4 กันยายน 2563

บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พบว่า บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 30.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 27.40 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทรายงานมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 50.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.71% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 46.57 ล้านบาท

ทั้งนี้กำไรเพิ่มขึ้นสาเหตุมาจากการเดินหน้ารับรู้รายได้จากงานในมือที่ตุนไว้ อย่างงานภาครัฐที่เน้นงานขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลง

นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ด้วยอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.038 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ส่วนวันที่จ่ายปันผลวันที่ 4 กันยายน 2563

สรุปทั้ง 4 หลักทรัพย์แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่บริษัทยังสามารถรักษาการเติบโตส่วนของกำไรทั้งไตรมาส 2/2563 และงวด 6 เดือนแรกไว้ได้ !!!

Back to top button