สุดยอดหุ้นอสังหาฯก่อสร้างกำไรเยี่ยม

อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ไม่มีวันทำให้นักลงทุนหมดความสนใจเนื่องจากเป็นหุ้นที่มีวันสดใสและทำกำไรมหาศาลให้กับผู้ที่ถือหุ้น และมีวันที่เลวร้ายที่ทำให้ขาดทุนได้มหาศาลจนนักลงทุนเลิกเล่นได้ แต่ก็มักจะเป็นการเลิกชั่วคราว ในฐานะของ Value Investor จึงทำให้รูปแบบการลงทุนนี้ยังได้รับความสนใจอยู่เสมอๆ


อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ไม่มีวันทำให้นักลงทุนหมดความสนใจเนื่องจากเป็นหุ้นที่มีวันสดใสและทำกำไรมหาศาลให้กับผู้ที่ถือหุ้น และมีวันที่เลวร้ายที่ทำให้ขาดทุนได้มหาศาลจนนักลงทุนเลิกเล่นได้ แต่ก็มักจะเป็นการเลิกชั่วคราว ในฐานะของ Value Investor จึงทำให้รูปแบบการลงทุนนี้ยังได้รับความสนใจอยู่เสมอๆ

 

ทั้งนี้นักลงทุนควรทำความเข้าใจกับธุรกิจนี้เพื่อที่จะได้ไม่ตกหลุมพรางที่มักจะเกิดขึ้นในธุรกิจที่ “เล่นยาก”นี้

โดยการลงทุน หรือการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างมักเป็นที่นิยมในตลาดหลักทรัพย์ฯมาเป็นเวลาช้านานนั่นเอง เนื่องจากราคาหุ้นที่หวือหวาขึ้นลงได้มากในเวลาอันสั้น สามารถตัดสินผลกันได้อย่างรวดเร็ว หุ้นกลุ่มนี้จึงมักเป็นสีสันของทั้งนักวิเคราะห์ นักข่าว และนักเก็งกำไรอยู่เสมอ และมักจะเป็นส่วนหนึ่งของความรุ่งเรืองหรือความตกต่ำทางเศรษฐกิจในแต่ละรอบ

อีกทั้งราคาหุ้นมีความหวือหวาขึ้นลงได้มากในปีเดียว เหตุจากกำไรสุทธิของหุ้นในกลุ่มนี้มักไม่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ไม่ง่ายนัก เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างมีทางเลือกมาก โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจบ้าน และคอนโดฯ เมื่อลูกค้าได้บริโภคหรือซื้อไปแล้วนั้น เนื่องจากสินค้ามีอายุการใช้งานนานมากและมีมูลค่าสูง ลูกค้าจึงไม่อาจซื้อสินค้าซ้ำได้บ่อยๆ บริษัทเหล่านี้จึงต้องวนเวียนอยู่กับการหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นอาจทำให้กำไรสุทธิของบริษัทไม่แน่นอน ปีนี้ดี ปีหน้าอาจแย่ได้

 

ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงมีการสำรวจข้อมูลผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2558 ในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างมีการเปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวของปีก่อน อย่างเช่น บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น และบริษัทพลิกมีกำไร โดยจัดอันดับจากเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงจากมากสุดลงมาน้อยสุดซึ่งสามารถดูได้จากตารางประกอบมาพร้อมกันนี้แล้ว

ข้อมูลในตารางจะมีหุ้นที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกิน 100% อาทิ ROJNA, TASCO, PF, WIIK, A, AQ, CI, WHA, VNG, PRINC, NNCL, CK, U และ NCH

อันดับหนึ่ง บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 830.36 ล้านบาท หรือ 0.44 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3,193.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 26.84 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น, รายได้จากการขายที่ดินและอาคารโรงงานเพิ่มขึ้น, รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น, รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าบริหารจัดการบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

อันดับสอง บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TASCO รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 2,443.08 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 1.589 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 856.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 255.35 ล้านบาท หรือ 0.167 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมียอดขายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของตลาดส่งออกปรับขึ้นอย่างมาก

อันดับสาม บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 520.49 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.08999 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 728.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 62.82 ล้านบาท หรือ 0.0109 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินดังกล่าวที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายบ้านและที่ดินเพิ่มขึ้น, รายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น, รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น

อันดับสี่ บริษัทวิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) หรือ WIIK  รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 33.07 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.11 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 508.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.43 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินดังกล่าวที่กำไรเพิ่มขึ้น จากภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับส่วนเกินทุนจากการตีราคาที่ดิน

อันดับห้า บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 99.99 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 501.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.61 ล้านบาท หรือ 0.017 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินดังกล่าวที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น และรายได้จากการรับจ้างสร้างบ้านและขายวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น

 

อันดับหกบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 59.57 ล้านบาท หรือ 0.0047 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 461.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 16.46 ล้านบาท หรือ 0.0001 บาทต่อหุ้นโดยจากผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนที่พลิกมีกำไร จากบริษัทมีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีกว่าปี 2557

อันดับเจ็ด บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 99.11 ล้านบาท หรือ 0.139 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 301.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 49.08 ล้านบาท หรือ 0.073 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินดังกล่าวที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น, รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมบริหารงานและค่าธรรมเนียมอื่นเพิ่มขึ้น

อันดับแปด บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 221.53 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0256 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 271.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 59.71 ล้านบาท หรือ 0.0062 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ค่าเช่า ค่าบริการและค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการเติบโตของพื้นที่ให้เช่าและบริการจากการที่บริษัทและบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ ได้พัฒนาคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานเพื่อให้เช่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายได้ในส่วนนี้ยังรวมถึงรายได้ค่าบริการที่เกิดจากการให้บริการระบบสาธารณูปโภคของบริษัท เหมราชฯ อีกด้วย

อันดับเก้า บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 687.14 ล้านบาท หรือมีกำไร 0.44 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 253.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 194.40 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น 240.2 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทและบริษัทย่อย คือแผ่นเอ็มดีเอฟเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง เนื่องจากการลดลงของเงินต้นเงินกู้ระยะยาวจากการชำระคืนเงินต้นตามกำหนด

อันดับสิบ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ 16.22 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ  0.02 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 239.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.77 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น

 

อันดับสิบเอ็ด บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 44.31 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 226.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 35.05 ล้านบาท หรือ 0.023 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการขายโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น, รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น และรายได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น

อันดับสิบสอง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ  2,091.02 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 1.23 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 208.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 677.20 ล้านบาท หรือ 0.40 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานแลว บริษัทยังมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทร่วมและเงินลงทุนระยะยาวอื่นๆ จำนวนรวม 1,972 ล้านบาท

อันดับสิบสาม บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 8.86 ล้านบาท หรือ 0.00002 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 105.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 161.14 ล้านบาท หรือ 0.00083 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรายได้ของโรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร ตั้งแต่วันที่ได้มาซึ่งกิจการของบริษัท บีทีเอส แอสเสทส์ จำกัด และกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์จำนวน 150.99 ล้านบาท เกิดจากการขายโครงการอพาร์ตเมนต์ที่สุขุมวิท 49 และการได้รับค่าชดเชยจากการเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินโครงการอ่อนนุช

อันดับสิบสี่ บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558มีกำไรสุทธิ  76.32 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ  0.064 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 100.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.07 ล้านบาท หรือ 0.032 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการเนทูเรซ่า คอนโดมิเนียม เฟส 1, โครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปิ่นเกล้า-สาย 5,โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ เทอร์เร่, โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ เลค แกรนด์เด,โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ นีว่า รายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้นจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน

ทั้งหมดนี้คือหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่มีกำไรสุทธิเยี่ยมในช่วงครึ่งปีแรก 2558  เท่านั้น !!

 

Back to top button