SKY รับไม้ต่อบินไทย

ด้วยสถานการณ์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่อยู่ในขั้นตอนกู้ชีพ (เข้าแผนฟื้นฟูกิจการ) ซึ่งไม่รู้จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่..?


สำนักข่าวรัชดา

ด้วยสถานการณ์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่อยู่ในขั้นตอนกู้ชีพ (เข้าแผนฟื้นฟูกิจการ) ซึ่งไม่รู้จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่..?

ทำให้ THAI ต้องหันมาโฟกัสคอร์บิสซิเนส หรือธุรกิจสายการบิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัด…เห็นได้ชัดจากการตัดขายนอนคอร์บิสซิเนส หรือทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK, หุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS, เครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 จำนวน 5 เครื่องยนต์ และอาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ ออกไป

แหม๊…ไม่คิดว่าเจ้าดอกจำปีที่เคยรุ่งเรืองในอดีต จะมาถึงจุดนี้…จุดที่ต้องขายสมบัติกินเพื่อหนีตาย..!!

แทบไม่หลงเหลือสภาพสายการบินแห่งชาติของคนไทยเลยนะเนี่ย…น่าเศร้าใจจริง ๆ…

ท่ามกลางวิกฤตของ THAI ก็อาจทำให้ศักยภาพของการแข่งขันมีขีดจำกัดมากขึ้น เป็นโอกาสให้บริษัทอื่น ๆ ใช้จังหวะนี้ เข้ามาแสวงหาโอกาสในบางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการภาคพื้นในสนามบินที่ THAI เคยครอบครอง หรือเคยได้ประโยชน์ โดยเฉพาะในสนามบินสุวรรณภูมิ..!!

เนื่องจากด้วยสถานะของ THAI ที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแล้ว ก็จะทำให้ 1) เงื่อนไขตามสัญญาเดิมที่เซ็นกันไว้อาจเปลี่ยนไป

2) หากสัญญาหมดอายุก็ต้องมีการประมูลใหม่ ซึ่งเงื่อนไขอะไรต่าง ๆ อาจไม่ได้เปรียบเอกชนรายอื่น ๆ อีกต่อไป

และ 3) ศักยภาพหายไป เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก็อาจทำให้แพ้การประมูลได้

ก็จะเป็นโอกาสของบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ที่จะมาเสียบแทน THAI..!!

ถ้าจำกันได้ เมื่อช่วงกลางปี 2563 SKY เพิ่งควักเงิน 212 ล้านบาท ซื้อหุ้นบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ SAL สัดส่วน 48.80% แบ่งเป็นซื้อจากบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III 33.20% มูลค่า 157 ล้านบาท และบริษัท มายบ็อกส์ จำกัด 13.60% มูลค่า 54 ล้านบาท

ไฮไลต์อยู่ที่ SAL เป็นโฮลดิ้งคอมปานี ที่ถือหุ้น 51% ในบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SAL กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับประกอบกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยานและผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT นั่นแหละ…

โดยปัจจุบันบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย เป็นผู้ให้บริการขนย้ายสัมภาระ คาร์โก้ ทำความสะอาดเครื่องบิน หลุมจอด ที่สนามบินดอนเมือง ชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ อยู่แล้ว

ถ้าจะคว้างานให้บริการภาคพื้นในสนามบินสุวรรณภูมิ (ขุมทรัพย์แห่งใหม่และแหล่งใหญ่) มาครองอีกแห่ง ก็คงไม่เกินความสามารถ SKY หรอกมั้ง..?

อย่าลืมว่า SKY เค้ามีแบ็กดีหนุนอยู่นะ…แต่จะศักดิ์สิทธิ์เท่าหลวงปู่ป้อมหรือเปล่า..? อันนี้ไม่รู้สินะ

จากที่เห็นผลประกอบการของบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย ก่อนหน้านี้เติบโตดี โดยปี 2562 มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท จากรายได้รวม 239 ล้านบาท…โอเค แม้ปี 2563 พลาดท่าถูกโควิดขวิดซะยับเยิน ส่งผลให้ขาดทุน 60 ล้านบาท จากรายได้รวม 196 ล้านบาท

แต่ถ้าโควิดคลี่คลายเมื่อไหร่ ธุรกิจการท่องเที่ยวกลับมา นั่นแหละจะเป็นยุคทองของบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย อีกครั้ง…

แล้วคนที่ได้ประโยชน์จะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่ผู้ถือหุ้นทางอ้อมอย่าง SKY

จริงป๊ะล่ะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button