แมงเม่าสู้ตาย!

* วานนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกลุ้นระทึกไปตามอารมณ์ของตลาดหุ้น เพราะทันทีที่เปิดเทรดปุ๊บ ก็ทรุดตัวลงไปกองอยู่ในแดนลบปั๊บ หลังจากนั้นก็พยายามตีตื้นขึ้นมาตลอดเวลา พร้อมกับพยายามขึ้นยืนเหนือเส้น 10 วัน และ 25 วัน แต่หลังจากนั้นก็ยอมจำนนต่อแรงขายที่ถล่มไม่ยั้ง จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 1,576.60 จุด ลบไป 14.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.24 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงแรงขายยังมีอยู่มากพอสมควรนะคะ


* วานนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกลุ้นระทึกไปตามอารมณ์ของตลาดหุ้น เพราะทันทีที่เปิดเทรดปุ๊บ ก็ทรุดตัวลงไปกองอยู่ในแดนลบปั๊บ หลังจากนั้นก็พยายามตีตื้นขึ้นมาตลอดเวลา พร้อมกับพยายามขึ้นยืนเหนือเส้น 10 วัน และ 25 วัน แต่หลังจากนั้นก็ยอมจำนนต่อแรงขายที่ถล่มไม่ยั้ง จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 1,576.60 จุด ลบไป 14.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.24 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงแรงขายยังมีอยู่มากพอสมควรนะคะ

* เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของคนที่คอยประคองดัชนี “โมนิก้า” พบว่า แมงเม่ากลายเป็นพระเอกของเที่ยวนี้อย่างสมบูรณ์แบบ (เคาะขวาแบบจัดเต็มมากถึง 2.71 พันล้านบาท) ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่า บริเวณนี้เป็นจุดเสี่ยง แต่ยังกล้าเข้าซื้อแบบสุดตัว จึงขอปรบมือให้กับความหาญกล้าสักหน่อย ขณะที่กองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว ก็สาดหุ้นออกมาตลอดทั้งวันแบบนี้ เดี๊ยนถึงมั่นใจว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้จะโหดมากขึ้นเรื่อย ๆ พะยะค่ะ

* เนื่องจากตรรกที่ทุกคนมองเหมือนกันก่อนหน้านี้..เขาว่าด้วยเรื่องเงินทุนไหลออกมากกว่าเงินทุนไหลเข้า “โมนิก้า” จึงเกิดความสับสนทางกระบวนการทางความคิดว่า “ซื้อ” หรือ “ขาย” ทางเลือกไหนดีกว่ากัน? เพราะสิ่งที่สะท้อนออกมามันเป็นเรื่องของสถานการณ์ที่ทรุดลงทุกวัน จึงต้องดูกันต่อไปว่า แมงเม่าจะมีแรงยื้อกับพวกนักลงทุนสถาบันได้นานแค่ไหนเจ้าค่ะ

* เหมือนกับเรื่องที่หลายคนพูดเสียงเดียวกันว่า ผลงานงวดนี้ของหุ้น CHG  ออกมาปังปุริเย่แน่นอน แถมมีใบการันตีจากหลายกูรูที่พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า กำไรเด่น พ่วงด้วย “เทคนิคสวย” ใครที่ยังลังเลจะเล่นเก็งกำไรสั้น ๆ  ก็ให้รีบเล่นก่อนจะสายเกินไป หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 4.24 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาทแบบนี้..เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า คุ้มที่จะเสี่ยงไหม?

* เช่นเดียวกับอาการที่เกิดขึ้นกับ KCE ทุกกระเบียดนิ้ว เพราะก่อนหน้านี้ทำท่าจะจอดไม่ต้องแจว! เพราะเริ่มโดน take profit เป็นระลอก พอเอาเข้าจริง ๆ กลับทะยานสวนกระแสให้ดูเป็นขวัญตาแบบนี้ “โมนิก้า” ฟันธงได้ทันทีว่า นี่คือมันนี่เกมที่นักเล่นต้องระวังให้ดี ๆ และการขึ้นมาปิดที่ 73.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  930 ล้านบาท มันเป็นอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นไงล่ะจ๊ะ

* อีกหนึ่งเกมที่ “โมนิก้า” ต้องพูดถึงเมื่อมีโอกาสก็คือ เกมของหุ้นเล็กที่กำลังเวียนเล่นกันอย่างสนุกสนาน กลายเป็นโมเมนตัมที่ต้องตามติดให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเที่ยวนี้เป็นลักษณะเหวี่ยงแหกันอย่างเมามัน และหวยก็มาออกที่หุ้น AJA เหมือนนัดกันไว้เสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.40 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 17.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 317 ล้านบาท มีอะไรดีเป็นพิเศษหรือเปล่า? หรือการขึ้นเที่ยวนี้เป็นเพียงแค่ยาแก้ขัด..ก็ว่ากันไป..อิอิอิ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้นึกถึงหุ้น SCI ซึ่งปกติแล้วจะไม่ค่อยหวือหวา แต่วานนี้กลับโดดเด่นจนสะดุดตา แถมวอลุ่มก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากไม่มองก็จะหาว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้า แถมเมื่อดูจากสัญญาณเทคนิคก็อยากจะเชียร์ให้ไปต่อได้อีกหลายวันเหมือนกัน แต่ข้อมูลเก่าย้ำเตือนว่า นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ ทำให้ราคาปิดที่ 2.24 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 141 ล้านบาท กลายเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังนะคะ

* เช่นเดียวกับในรายของน้องเขียว GREEN กระชากขึ้นไปถึงระดับ 2.22 บาท แต่สุดท้ายลงมาปิดที่ระดับ 1.98  บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยวอลุ่มซื้อขาย 278  ล้านบาท พร้อมกับไส้แท่งเทียนมีลักษณะยาวเหยียด กลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึก ร้อนรุ่ม” เพราะในทางเทคนิคเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า ลากออกของ! และขอบอกว่าเม่าไหนใจไม่ถึง “อย่าเล่นกับไฟ” ใครที่มีหุ้นอยู่ในมือ แล้วเกิดอาการอยากขาย..ก็ขายนะเจ้าคะ

* เหมือนกับหุ้นที่ “มาเร็ว เคลมเร็ว” อย่าง UMI กลายเป็นอุทาหรณ์สอนใจเหล่านักเล่นว่า ห้ามพลาด..หากจะเล่นกับของร้อน จากหุ้นที่เคยขึ้นแรง ๆ เมื่อวันก่อน วานนี้ดันทรุดฮวบลงพอ ๆ กับวันที่ขึ้น จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 1.63 บาท ลบไป 0.28 บาท หรือลงไป 14.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาท “โมนิก้า” ไม่ขอกล่าวโทษอะไรทั้งสิ้น เพราะโลกของการลงทุนก็เป็นแบบนี้..ใครโยนก่อน  มักรอดตัวนะคะ

Back to top button