BCPG สู่ธุรกิจแบตเตอรี่ ‘เสริมทับโตแบบทวีคูณ’

BCPG ปรับยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ธุรกิจแบตเตอรี่ที่ใช้วาเนเดียมเป็นหลัก โดยการซื้อหุ้น 14% ใน VRB Energy (VRB) ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค.64 ที่ผ่านมา


คุณค่าบริษัท

ก้าวที่ยิ่งใหญ่! บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ปรับยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ธุรกิจแบตเตอรี่ที่ใช้วาเนเดียมเป็นหลัก โดยการซื้อหุ้น 14% ใน VRB Energy (VRB) ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ถือว่ามีความน่าสนใจ หลังจากทางผู้บริหารออกมาเปิดเผยความชัดเจนถึง 3 ประเด็นสำคัญที่ยืนยันความมุ่งมั่นเกี่ยวกับการติดสินใจเข้าสู่ธุรกิจแบตเตอรี่ที่ใช้วาเนเดียมเป็นหลักของบริษัท

ประการแรก BCPG คาดว่า VRB ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิต Vanadium Redox Flow Batteries (VRFB) ชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดของโลก จะเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัท จากในปัจจุบันที่ 50 เมกะวัตต์ เป็น 200 เมกะวัตต์ต่อปี เป็น 1,050 เมกะวัตต์ จนเป็น 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ประการที่สอง VRB กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนที่จะจับความต้องการ VRFB ที่คาดว่าจะโตแบบทวีคูณในอีก 5 ปีข้างหน้า และอาจทำให้บริษัทสามารถได้ส่วนแบ่งถึง 1 ต่อ 6 ของตลาดแบตเตอรี่หมุนเวียนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 6,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ประการที่สาม BCPG อาจได้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิมากถึง 700 ล้านบาท จาก VRB ในปี 2568 โดยมีสมมติฐานจากตัวเลขปริมาณขาย 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสร้างรายได้ 200 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 70 ล้านดอลลาร์ จากอัตรากำไรสุทธิ 35% ที่ทางบริษัทคาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ หลังจาก BCPG ใช้เงิน 24 ล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อหุ้น 14% ใน VRB โดยการแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นทุนภายในกลางปี 2565 ซึ่งทาง BCPG ระบุว่า VRB จะเพิ่มกำลังการผลิต VRFB จาก 50 เมกะวัตต์ จากโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ และจากโรงงานที่หูเป่ย เป็น 150 เมกะวัตต์ ในปี 2565 แล้วจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 300 เมกะวัตต์ ในปี 2566 และในท้ายสุดแล้วจะได้เป้าหมายระยะยาวที่ 1,050 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ทั้งนี้ BCPG คาดว่าจะต้องใส่เงินเพิ่มอีก 10 ล้านดอลลาร์ สำหรับโรงงานใหม่ขนาด 100 เมกะวัตต์ ในหูเป่ย จากข้อมูลของผู้บริหาร VRB กำลังวางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เพื่อเพิ่มทุนสำหรับใช้สร้างโรงงาน VRFB ขนาด 300 เมกะวัตต์ และ 800 เมกะวัตต์ ในปี 2566-2567

ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารยังระบุว่า VRB ได้รับใบสั่งซื้อมากถึง 400 เมกะวัตต์ เพื่อจัดส่งภายในปี 2566 แน่นอนแล้ว ซึ่งทำให้ VRB กลายเป็นผู้ผลิต VRFB ที่ใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งผู้บริหารยังระบุด้วยว่าบริษัทคาดว่าประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ VRFB จะดีขึ้นจากในปัจจุบันที่ 70% เป็น 88-90% ภายในปี 2568 ซึ่งอาจดันให้ VRFB ขึ้นสู่ระดับการแข่งขันที่ดีกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ลิเทียมเป็นหลัก ประสิทธิภาพที่ 90-95% จากระดับการจ่ายกระแสไฟฟ้า (Depth of Discharge) ของ VRFB ที่ 100% เทียบกับที่เพียง 80-90% ของแบตเตอรี่ลิเทียม

อย่างไรก็ตาม บล.ฟินันเซีย ไซรัส คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 17.40 บาท โดยเชื่อว่าการตัดสินใจซื้อกิจการแบตเตอรี่ VRFB ของ BCPG เป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ที่จะให้มูลค่าเพิ่มและวาง BCPG ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตแบบทวีคูณของความต้องการที่ใกล้จะมาถึงในตลาดระบบกักเก็บพลังงานของโลก

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 1,593,626,284 หุ้น 60.35%
  2. Capital Asia Investments Pte. Ltd. 195,750,000 หุ้น 7.41%
  3. Pilgrim Partners Asia (Pte) Ltd. 195,750,000 หุ้น 7.41%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 28,554,462 หุ้น 1.08%
  5. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 20,469,650 หุ้น 0.78%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ
  2. นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช รองประธานกรรมการ
  3. นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
  4. นายธรรมยศ ศรีช่วย กรรมการ
  5. พลเอกคณิต สาพิทักษ์ กรรมการอิสระ

Back to top button