PJW รับปัจจัยหนุนส่งออก

มีการวิเคราะห์กันว่า PJW จะรายงานผลการดำเนินงานทางด้านกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 21.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317% จากงวดเดียวกันของปีก่อน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW คาดจะรายงานผลการดำเนินงานทางด้านกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 21.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดขายในธุรกิจ Auto Part ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดมากนัก

นอกจากนี้ มีสัดส่วนของยอดขายธุรกิจ Auto Part ที่มากขึ้นหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันศักยภาพการควบคุมต้นทุนของบริษัทที่ดี และธุรกิจในจีนมีความคืบหน้าของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามแผน ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานขาดทุนลดลง

ด้านในส่วนของธุรกิจวัสดุทางการแพทย์นั้น บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผน โดยปัจจุบันได้เริ่มที่จะทำการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 ลักษณะของการนำเข้าผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย และเริ่มต้นดำเนินการผลิตในช่วงปลายไตรมาส 1/2564 ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักให้กับการเติบโตของผลประกอบการในปี 2565 รวมทั้งยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าธุรกิจเดิมที่ 25%

ขณะเดียวกัน ทางบล.เอเชีย เวลท์ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 มาอยู่ที่ 152.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 อยู่ที่ 176.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ โดยประมาณการผลประกอบการใหม่เพิ่มขึ้นในปี 2564 เพิ่มขึ้น 1.8% และปี 2565 เพิ่มขึ้น 7.0% จากประมาณการเดิม ซึ่งเป็นการสะท้อนรายได้จากธุรกิจใหม่ที่จะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2564

ทั้งนี้ ผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2564 ยังคงเป็นบวกจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวเด่นหนุนยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่องและ Auto Part โตตามแผนของบริษัท โดยในเดือน พ.ค. 2564 ส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 50.3% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 165.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากประเทศคู่ค้าเริ่มมียอดขายรถยนต์ที่ดีขึ้น เช่น ออสเตรเลีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม มีการปรับไปใช้ราคาเป้าหมายของ PJW ปี 2565 ที่ 7.30 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PER ที่ 23.8 เท่า โดยราคาเป้าหมายดังกล่าวได้รวมมูลค่าของธุรกิจวัสดุการแพทย์ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2565 เข้ามาเพิ่ม รวมไปถึงปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของธุรกิจที่จีนในปี 2565 ที่คาดจะพลิกกลับมามีกำไร คงแนะนำ “ซื้อ” โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 43%

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นางมาลี เหมมณฑารพ 67,200,525 หุ้น 11.71%
  2. นายคงศักดิ์ เหมมณฑารพ 64,000,000 หุ้น 11.15%
  3. นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ 55,868,660 หุ้น 9.73%
  4. นายพิรุฬห์ เหมมณฑารพ 54,930,387 หุ้น 9.57%
  5. นายชวาล เหมมณฑารพ 47,829,245 หุ้น 8.33%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายดำริ สุโขธนัง ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
  2. นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. นายสาธิต เหมมณฑารพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. นายคงศักดิ์ เหมมณฑารพ รองประธานกรรมการบริษัท
  5. นางมาลี เหมมณฑารพ กรรมการ

Back to top button