งบสวย..ช่วยได้

* หากยึดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก “โมนิก้า” ก็พูดได้ทันทีว่า จังหวะนี้มีหุ้นหลายตัวที่น่าลงทุน เพราะงบไตรมาส 2 ที่ประกาศออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ช่างเลิศหรูอลังการงานสร้าง จึงทำให้เชื่อว่า ไตรมาส 3 น่าจะรักษาผลงานไม่ให้ทรุดฮวบได้ในระดับหนึ่ง แถมเมื่อมองโครงสร้างการทำธุรกิจแบบยาว ๆ ก็มั่นใจได้ว่า หุ้นเหล่านี้จะทำผลงานได้ตามแผนที่วางไว้นะคะ


* หากยึดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก “โมนิก้า” ก็พูดได้ทันทีว่า จังหวะนี้มีหุ้นหลายตัวที่น่าลงทุน เพราะงบไตรมาส 2 ที่ประกาศออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ช่างเลิศหรูอลังการงานสร้าง จึงทำให้เชื่อว่า ไตรมาส 3 น่าจะรักษาผลงานไม่ให้ทรุดฮวบได้ในระดับหนึ่ง แถมเมื่อมองโครงสร้างการทำธุรกิจแบบยาว ๆ ก็มั่นใจได้ว่า หุ้นเหล่านี้จะทำผลงานได้ตามแผนที่วางไว้นะคะ

* วันนี้จึงต้องมองภาพการเคลื่อนตัวของดัชนี กับการเคลื่อนตัวของหุ้นรายตัวออกจากกันให้ได้ เพื่อทำให้เห็น “โอกาส” และ “อุปสรรค” ในการลงทุนมีมากน้อยขนาดไหน? ผนวกกับมีการหลับหูหลับตาดันหุ้นอย่างเดียว “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนเข้าใจเรื่อง “งบสวยคือตัวแปรที่ช่วยค้ำหุ้น” แถมเมื่อคิดบนค่า PE และ PBV ก็เป็นระดับที่สามารถทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตได้สบาย ๆ แล้วจะกลัวทำไมล่ะจ๊ะ

* ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ 1,532.71 จุด ลบไป 9.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.97 หมื่นล้านบาท คงไม่ใช่เรื่องต้องกังวลใจ เพราะที่ผ่านมาก็แกว่งตัวไปมาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว “โมนิก้า” ถึงให้ความสนใจดัชนีเฉพาะช่วงที่ขึ้นมาถึงแนวต้านสำคัญ และตอนที่ลงมาถึงแนวรับสำคัญเป็นหลัก จึงพยายามอธิบายแรงขายที่ออกมาเป็นระลอก คงไม่จบง่ายเหมือนเช่นที่เคยเชื่อกันหรอกนะตัวเอง!

* เหมือนกับแรงขายที่ถล่มใส่หุ้น TIDLOR จนเกิดอาการโงหัวไม่ขึ้น พร้อมกับทำ all time low ด้วยการยืนปิดที่ระดับ 37 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.96 พันล้านบาท ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ทุกคนเกิดความหวาดหวั่นอย่างไม่ต้องสงสัย ผนวกกับเทียบค่า PE กับหุ้นที่ทำธุรกิจแข่งกันแบบเปิดหน้าชน ก็เห็นอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า หุ้นตัวนี้แพงจริง! และหนทางเดียวที่จะทำให้หุ้นกลับมาดูดีอีกครั้งคือ กำไรต้องโตนะนายจ๋า!

* คล้ายกับกรณีของหุ้นห้องเย็น ASIAN ถูกขายหนักสองวันติดแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะไล่หุ้นขึ้นมาเก็งงบไตรมาส 2 พอตัวเลขจริงออกมาไม่โตเหมือนที่คาดหวัง จึงโดนขายเพื่อปรับสมดุลราคาอย่างดุเดือด ส่งผลให้หุ้นลงมายืนปิดที่ 18.70 บาท ลบไป 2.30 บาท หรือลงไป 10.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาทอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” จึงอยากให้นักเล่นประเมินงบไตรมาส 3 มีโอกาสแก้มือไหม? รวมทั้งค่า PE 18 เท่า เหมาะต่อการช้อนหุ้นไหมเอ่ย?

* สำหรับรายที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ยังทำผลงานได้ดีอย่าง STGT กลายเป็นหุ้นตัวอย่างที่สามารถทยอยเก็บได้แบบไม่มีเงื่อนไข เพราะทันทีที่งบออกมาสวยเช้งตามที่ประเมินไว้ แรงซื้อก็ไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 38.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตของการ follow buy แบบไม่มีอะไรต้องคาใจพะยะค่ะ

* ส่วนรายที่เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า ผลงานในงวดถัดไปน่าจะออกมาดี และมีความเป็นไปได้ที่งวดถัดไปจะดีขึ้นอีกคงต้องมองไปที่หุ้น ACE ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ “โมนิก้า” ต้องขอเม้าท์แบบไม่ลังเลใจ แถมมองในมุมของสตอรี่ใหม่ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การยืนปิดที่ระดับ 4.32 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.35%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 879 ล้านบาท น่าสนใจขึ้นมาทันที หลังหุ้นกำลังยกฐานใหม่ที่มั่นคงน่ะสิ

* เช่นเดียวกับการอ่อนตัวของหุ้น JMT จนลงมาใกล้กับเส้นแนวรับ 200 วันที่บริเวณ 39 บาท ทั้งที่กำไรไตรมาส 2 โตตามแผน ย่อมเป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า การลงมาปิดที่ 41 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 446 ล้านบาท น่าลงทุนสุด ๆ เพราะเส้นแนวรับดังกล่าวทำงานดีในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผนวกกับ 3 ครั้งก่อนที่ลงมาใกล้ ๆ ก็เด้งกลับทันทีแบบนี้..ชอบม๊า!

* ตบท้ายกันที่ของแท้แน่นอนอย่าง GULF กันดีกว่า เพราะการที่โบรกเกอร์ต่าง ๆ ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป้าบนอยู่แถว 47 บาท  ย่อมการันตีการขึ้นเที่ยวนี้มีผลงานโตเป็นแบ็คอัพ “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับติดตามทุกย่างก้าวของหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษ เพราะสตอรี่เจ๋ง น่าจะถูกปล่อยออกมาทีละช็อต จนทำให้การปิดเสมอตัวที่ 37.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.62 พันล้านบาท กลายเป็นจุดที่ลงทุนได้สบาย ๆ พะยะค่ะ

Back to top button