BH เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

ล่าสุดเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการเปิดประเทศ ที่ทางบริษัท BH จะได้ประโยชน์จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติราว 67% ของรายได้ก่อนช่วงโควิด


คุณค่าบริษัท 

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่จะเปิดประเทศ การผ่อนคลายล็อกดาวน์ ล่าสุดเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการเปิดประเทศ ที่ทางบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จะได้ประโยชน์จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติราว 67% ของรายได้ก่อนช่วงโควิด จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมีแนวโน้มลดลง และจำนวนผู้หายป่วยมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่เพิ่มขึ้นราว 32.6 ล้านคน หรือ 50% ของประชากร ณ ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ทางนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มองว่ากำไรของ BH ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่ากำไรจะสูงขึ้นในครึ่งหลังของปี 2564 จากจำนวนผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้น BH เพิ่มเตียงผู้ป่วยโควิด 31% เป็น 88 เตียง และ hospitel 46% เป็น 351 ห้อง อัตราการครองเตียงเพิ่มเป็น 90% ในไตรมาส 2/2564 จาก 79% ในไตรมาส 1/2564 และปัจจัยสนับสนุนในไตรมาส 4/2564 คือวัคซีนโมเดอร์นา 17,000 โดส และการกลับมาของอุปสงค์คงค้างของผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มารักษาโรคซับซ้อน BH จะลดค่าใช้จ่ายได้ 110 ล้านบาท ในครึ่งหลังของปี 2564

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,020.17 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,452.06 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 216.47 ล้านบาท หรือ 0.27 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 44.43 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกล่มผู้ป่วยชาวไทย ชาวต่างชาติที่พักในไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่มาใช้บริการ สถานที่กักตัวทางเลือกในโรงพยาบาล (Alternative Hospital Quarantine : AHQ)

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 5,694.07 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,585.93 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเหลือ 307.60 ล้านบาท หรือ 0.39 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 809.63 ล้านบาท หรือ 1.05 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากช่วงครึ่งปีแรกรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างประเทศลดลง

อย่างไรก็ตาม จากประเด็นข้างต้นทางนักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์กำไรปี 2564 ลง 28% เป็น 1.2 พันล้านบาทสะท้อนจากครึ่งปีแรกที่ต่ำกว่าคาด แต่คงคาดการณ์กำไรปี 2565 และปี 2566 จากการเปิดประเทศ และ BH มีผู้ป่วย ต่างชาติ 300 รายรอเข้ารับรักษา และมีวัคซีนโมเดอร์นา 50,000 โดส ในเดือน ม.ค. 2565 รวมถึงการประหยัดดอกเบี้ย 125 ล้านบาท

นอกจากนี้ BH ได้ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดหนุนกำไรเติบโตก้าวกระโดด 88% ปีหน้า และ 13% ในปี 2566 โดย BH มีเงินสดมากกว่าเงินกู้ 5.4 พันล้านบาท และมีแนวโน้มจะคงปันผล 3.2 บาทต่อหุ้น ผลตอบแทน 2.4% ราคาหุ้น BH มี PEG ที่ 0.6 เท่า ปี 2565 ต่ำสุดในอุตสาหกรรม ปรับฐานประเมินมูลค่าเป็นสิ้นปี 2565 ทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่ม 5% เป็น 155 บาท

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสาธิต วิทยากร 142,217,106 หุ้น 17.90%
  2. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 106,740,417 หุ้น 13.43%
  3. UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED – Client Account 72,148,265 หุ้น 9.08%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 60,815,452 หุ้น 7.65%
  5. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 60,243,344 หุ้น 7.58%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ
  2. นายชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ รองประธานกรรมการ
  3. นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  4. นายชอง โท กรรมการ
  5. นายเบอร์นาร์ด ชาญวุฒิ ชาน กรรมการ

Back to top button