เปิด 15 หุ้น ‘ราคาพุ่งแรง’ เดือน ก.ย. 64

แม้ดัชนีเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าดัชนีหลายตัว


เส้นทางนักลงทุน

SET Index เดือน ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวผันผวน จนสุดท้ายภาพรวมปรับตัวลงเล็กน้อย โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2564 ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,605.68 จุด เทียบจากดัชนีปิด ณ วันที่ 31 ส.ค. 2564 อยู่ที่ 1,638.75 จุด ลดลง 33.00 จุด หรือลงไป 2.02%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าดัชนีหลายตัวด้วยกัน ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงได้ทำการสำรวจมาพอสังเขป 15 ตัวในอันดับแรก ได้แก่ TCC, NMG, AJA, TEAMG, U, CFRESH, TSI, LANNA, WIN, TR, WAVE, MFEC, LHFG, RICHY และ NEP เป็นต้น

บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC  โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.73 บาท เทียบกับวันที่ 31 ส.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.45 บาท เพิ่มขึ้น  1.28 บาท หรือขึ้นไป 284.44% สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักได้รับผลดีจากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก่อนหน้าทางบริษัทมีการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 พลิกมีกำไร 2.47 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 9.26 ล้านบาท

รวมทั้งบริษัทได้ทำการลงนามในบันทึกความเข้าใจในการร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เพื่อพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจจัดหา นำเข้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำพวก Eco-Energy Material โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม 1. สนามบิน 2. ท่าเรือ 3. ถนนคอนกรีต 4. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นทั้งสิ้น

บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.33 บาท เทียบกับวันที่ 31 ส.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.15 บาท เพิ่มขึ้น  0.18 บาท หรือขึ้นไป 120% ทั้งนี้จากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ส่วนหนึ่งเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่ามีกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งเข้ามาไล่ราคาหลังจากสัญญาณเทคนิคเป็นช่วงขาขึ้น

บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.58 บาท เทียบกับวันที่ 31 ส.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.36 บาท เพิ่มขึ้น  0.22 บาท หรือขึ้นไป 61.11% ซึ่งเป็นการเข้ามาเก็งกำไรหลังบริษัทมีข่าวดี โดยได้ลงนามความร่วมมือ MOU กับบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ทำการศึกษาโครงสร้างชิ้นส่วนประกอบและราคาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความเป็นไปได้ที่จะผลิต ประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งคัน หรือบางส่วน และตัวแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดต้นทุนของการจัดสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการจำหน่ายและให้ลูกค้าได้ใช้บริการหลังการขาย

ทั้งนี้  AJA ได้เข้าสู่ตลาดรถ EV Bike ตั้งแต่ปี 2562 และเล็งเห็นว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทาง AJA   ในฐานะผู้นำเข้ารถ EV Bike มาจำหน่ายในประเทศ จึงได้มีนโยบายพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะของรถให้เหมาะสมกับตลาดในประเทศ ในราคาที่ลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้

นอกจากนี้ AJA มั่นใจในศักยภาพของ CHO ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มายาวนาน เพื่อเป็นพันธมิตรในการศึกษา และพัฒนาการประกอบและผลิตชิ้นส่วนของรถ EV Bike และตัวแบตเตอรี่ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ก่อนที่จะเปิดตัว EV Bike  สายพันธุ์ไทย ภายในต้นปี 2565 และก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดในอนาคต

บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.64 บาท เทียบกับวันที่ 31 ส.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.36 บาท เพิ่มขึ้น  1.28 บาท หรือขึ้นไป 54.24% ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการรับข่าวตลาดทั้งเดือนจากการประเดิม SCC ส่งบริษัทย่อยเข้าถือหุ้น 9.90% หวังความร่วมมือธุรกิจ  ต่อมาบริษัทมีการเซ็นรับงานที่ปรึกษาบริหารโครงการสนามบินอู่ตะเภา เฟสแรก 415.61 ล้านบาท ตามด้วยลงนามในสัญญาโครงการระบบผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์จำนวน 245 ล้านบาท ระยะเวลา 25 ปี  และมีการจับมือพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุนสยายปีกลุยธุรกิจ Property Technology เป็นต้น

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เข้าร่วมประมูลในหลายโครงการ โดยล่าสุดบริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ประมาณ 3,700 ล้านบาท หากมีการเซ็นสัญญาเพิ่ม เชื่อว่าจะส่งผลให้มี Backlog ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท

บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ  U โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.69 บาท เทียบกับวันที่ 31 ส.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.10 บาท เพิ่มขึ้น  0.59 บาท หรือขึ้นไป 53.64% ทั้งนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมีนัยสำคัญหลังจากได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาดำเนินธุรกิจบริการทางการเงิน (Financial Service) ในปี 2564 และในปี 2565 คาดว่าจะกลับมามีกำไรและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยหุ้นบุริมสิทธิ (U-P) จะมีสิทธิรับเงินปันผลก่อนหุ้นสามัญ

สรุปจะเห็นได้ว่าจากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงล้วนมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร!!!

โดยนอกเหนือจากหุ้นข้างต้นสามารถดูรายละเอียดของราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงจากตารางประกอบ

Back to top button