เงินมา..หุ้นแรง

“บิ๊กตู่” ประกาศเปิดประเทศ 1 พ.ย. และยังยืนยันถึงการเปิดร้านเหล้ามาแน่ ๆ 1 ธ.ค. มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้นเป็นกอง


*ในที่สุดสายชิม สายช้อป สายปาร์ตี้ ก็ได้เฮสนั่นลั่นทุ่ง หลังจาก “บิ๊กตู่” ประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ 1 พ.ย. และยังยืนยันถึงการเปิดร้านเหล้ามาแน่ ๆ 1 ธ.ค. มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ผู้คนในประเทศกระชุ่มกระชวยขึ้นเป็นกอง และทำให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมหันตภัยโควิดแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่า เม็ดเงินการจับจ่ายใช้สอยในประเทศจะสะพัดขึ้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*เมื่อเม็ดเงินในระบบ และนอกระบบกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ก็มีความมั่นใจมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนฐานใหญ่อย่างเป็นทางการ เพราะเมื่อดูตัวเลขกำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทยก่อนเกิดโควิดเมื่อ 2 ปีก่อนอยู่ราว ๆ 112 บาท ต่อจากนั้นนำมาคำนวณบนค่า PE 15 เท่าจะเห็นว่า ระดับเหมาะสมจะอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด..จำกันได้บ่!

*ประกอบกับสัปดาห์กว่า ๆ ผู้คนให้ความสนใจเป้าดัชนีที่สมาคมนักวิเคราะห์ภายใต้การดูแลของป๋า “สมบัติ” ให้ไว้ที่บริเวณ 1,750 จุดเป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” จึงอนุมานได้ทันทีว่า สเต็ปการขึ้นของหุ้นไทยจะเป็นแบบขั้นบันได และจะใช้เวลานานในการย่ำฐานนานสักหน่อย แต่ยังเปิดโอกาสให้นักเล่นเข้ามาเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอย ดัชนีถึงขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,643.64 จุด บวกไป 10.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.30 ล้านบาทแบบชิล ๆ พะยะค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของเสือนอนกินอย่าง AOT กลายเป็นช็อตเด็ดที่ทุกคนรุมซื้อแบบไม่อั้น เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่า เงินกำลังจะไหลมาเทมา และในปีหน้าจะเห็นพื้นฐานเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนจึงต้องถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ระดับ 67.75 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.75 พันล้านบาท เทียบกับยอดแรกอยู่แถว 70 บาท และมียอดสองอยู่ที่ 75 บาท รวมทั้งการขึ้นไปทำไฮบริเวณ 80 บาท สื่ออะไรให้รู้บ้างไหมจ๊ะ

*คล้ายกับการทะยานขึ้นของน้อง MINT จนขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 33.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน และในช่วงเหตุการณ์ปกติเทรดกันไปถึง 40 บาท น่าจะเป็นไกด์ไลน์ที่บอกให้แฟนคลับขาลุยมีเวลาประเมินโอกาสในการเล่นมีมากขนาดไหน? จึงอยากให้ทุกท่านเตรียมพร้อมสำหรับการแรลลี่ยาว ๆ ไงล่ะคะ

*เช่นเดียวกับอาการอดอยากปากแห้งของหุ้นสายการบิน AAV เป็นเวลาร่วมสองปีก็จบลงเสียที และเริ่มมีความหวังกับการสร้างรายได้ และปั๊มกำไรอีกครั้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะหุ้นมาจากฐานต่ำมาก ๆ ผสานกับหุ้นมีบุ๊กแวลูอยู่ที่ 2.23 บาท เมื่อนำมาคำนวณตามสูตร 1.50 เท่าจะได้ราคาเป้าที่ระดับ 3.34 บาท  จึงต้องถามว่า การยืนปิดที่ 2.98 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาทน่าสนป๊ะ!

*ในเมื่อระบบโดยสารเริ่มคึกคักขึ้นกว่าก่อน หุ้นตัวพ่อแห่งวงการอย่าง BEM กับ BTS ย่อมได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ และพวกสายตื๊ดแบบเต็ม ๆ “โมนิก้า” จึงไม่อยากให้แฟนคลับมาเสียเวลากับข่าวเม้าท์ “จะไปเท่านั้น..จะไปเท่านี้” ให้รกสมอง เพราะแค่รู้ว่า ก่อนโควิดจะมาเยือนโลก ราคาหุ้นในกระดานสูงกว่านี้! จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 9.10 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 809 ล้านบาท และการยืนปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 526 ล้านบาท ยังมีความกล้าที่จะตามไปดูอีกไหม..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องผลบุญจากการเปิดประเทศขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมดีใจกับหุ้นน้องสวย BEAUTY มากเป็นพิเศษ หลังถ้อยแถลง “บิ๊กตู่” บอกไว้ชัดว่า ไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศเสี่ยงต่ำอย่าง จีน อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ สิงคโปร์ ฯลฯ แบบไม่ต้องกักตัว! จึงพากันเชื่อว่า เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามาก ๆ ยอดขายพุ่งขึ้นอย่างแน่นอน หุ้นจึงขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.69 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 13.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาทอย่างร้อนแรงไงล่ะคะ

*ในเมื่อมีเรื่องฟิน ๆ เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า WHA กับ AMATA จึงโหนกระแสเปิดประเทศแบบเต็ม ๆ เพราะที่ผ่านมาเจอคอขวดตรงขายที่ดินได้แล้ว แต่ยังไม่เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเห็นพื้นที่จริงก่อนจรดปากกา วันนี้จึงเป็นการปลดล็อกปัญหาแบบบูรณาการ หุ้นจึงพุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.42 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.37 พันล้านบาท ส่วนอีกรายปิดที่ 20.70 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 626 ล้านบาท น่าตามไปดูขนาดไหน..ลองถามใจเธอดูนะคะ

Back to top button